รอบรู้เรื่องวิตามินชี
มีหลายคนที่ชื่นชอบทานวิตามินซีเพื่อให้ผิวแลดูสว่าง กระจ่างใส แต่ทราบหรือไม่ว่าการทานวิตามินซีเพื่อผิวพรรณที่ดีในรูปแบบของอาหารเสริมนั้น ไม่เพียงแค่ว่าทานเข้าไปเฉยๆ แต่ยังมีข้อควรระวังในการทานวิตามินซีเพื่อให้ได้ผลดีกับร่างกายมากที่สุด และเพื่อไม่ให้ส่งผลเสียต่อร่างกายอีกด้วย
ปริมาณวิตามินซีต่อวันที่ร่างกายควรได้รับ
ปริมาณความต้องการต่อวันของวิตามินซี ซึ่งปริมาณที่ร่างกายคนเราควรได้รับสำหรับผู้ชายอยู่ที่ประมาณ 90 mg ผู้หญิงอยู่ที่ประมาณ 75 mg สตรีมีครรภ์จะประมาณ 90 mg ส่วนสตรีที่ให้นมบุตรจะอยู่ที่ประมาณ 75-120 mg แต่สำหรับคนที่สูบบุหรี่นั้นควรได้รับมากกว่าคนปกติ 35 mg เพราะบุหรี่เป็นศัตรูที่จะทำให้วิตามินซีสลายไปอย่างรวดเร็ว และสำหรับคนที่เป็นหวัดบ่อยๆ สามารถทานวิตามินซีเพิ่มได้อีก 40 mg ของคนทั่วไป เพราะถือว่าเป็นกลุ่มคนที่ขาดวิตามินซีมากกว่าคนอื่นๆ
ถ้าหากใครที่เลือกทานวิตามินซีจากผลิตภัณฑ์อาหารเสริมก็ควรเลือกทานที่ประมาณ 500-1,000 mg ต่อวัน ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละบุคคลด้วย หรือถ้าใครต้องการทราบว่าร่างกายตัวเองต้องการปริมาณวิตามินซีต่อวันเท่าไร ก็ต้องไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยญชาญพิเศษเพื่อที่จะคำนวณปริมาณที่แน่นอนเหมาะสมกับสภาพร่างกายของตัวเอง ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกาย
ทานมาเกินไปส่งผลเสียหรือไม่
ผลข้างเคียงจากการทานวิตามินซีมากเกินไป จะขึ้นอยู่กับระบบทางเดินอาหารและระบบย่อยอาหารที่อาจจะทำให้เกิดอาการแสบท้องไม่สบายท้อง รวมไปถึงโอกาสทที่จะเกิดท้องเสียได้ด้วย ดังนั้นเพื่อการป้องกันปัญหาดังกล่าวจึงควรทานวิตามินซีให้พอเหมาะกับร่างกาย ไม่ควรทานมากหรือน้อยเกินไป
ควรทานวิตามนิซีตอนไหน
หลายคนสงสัยว่าควรทานวิตามินซีเวลาไหนดี ความจริงแล้ววิตามินซีไม่ได้มีข้อกำหนดว่าต้องทานเวลาใด เพราะว่าวิตามินสามารถละลายน้ำได้และดูดซึมเข้าไปในร่างกายได้อยู่แล้ว แต่หากให้เลือกเวลาที่เหมาะสมที่สุด ก็ควรเป็นช่วงเวลาหลังทานอาหารเช้า เพราะว่าทำให้วิตามินซีถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายแบบมีน้ำนำพา และยังทำให้ในวันนั้น มีปริมาณวิตามินซที่เพียงพอต่อความต้องของร่างกายตั้งแต่เริมวันใหม่เลย
บทบาทและความจำเป็นของวิตามินซีที่มีต่อร่างกาย
- เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยปกป้องเซลล์และทำให้เซลล์ต่างๆ อยู่ในภาวะปกติ
- เป็นส่วนประกอบหนึ่งในการสังเคราะห์คอลลาเจนที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของโครงสร้างผิวหนัง กระดูก และเส้นเอ็น
- ช่วยในการสังเคราะห์สารคาร์นิทีน เป็นสารที่มีโมเลกุลขนาดเล็กและมีส่วนช่วยในการลำเลียงไขมันแล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานแก่ร่างกาย
- มีส่วนช่วยในการสังเคราะห์สารสื่อประสาทประเภท นอร์เอพิเนฟริน ที่มีส่วนเกี่ยงข้องกับการรับรู้ทางอารมณ์
- ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารด้ดีขึ้น
- เพื่มภูมิต้านทานและบรรเทาอาการจากโรคภูมิแพ้ โดยช่วยต่อต้อนสารที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้
- ช่วยเปลี่ยนคอเลสเตอรอลให้กลายเป็นกรดน้ำดี จึงทำให้ระดับบคอเลสเตอรอลในหลอดเลือดลดลง
แหล่งอาหารที่มีวิตามินซี
ส่วนใหญ่จะเป็นผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวเช่น ส้ม มะนาว กีวี และสับปะรด รวมไปถึงผักและผลไม้หลายชนิด ได้แก่ ฝรั่ง มะเขือเทศ พริกหยวก ผักกาด หรือบร็อกโคลี่ เป็นต้น เนื่องจากว่าวิตามินซีสามารถสูญสลายได้ง่าย เมื่อมีการสัมผัสกับแสง ควรร้อน และอาการศ ดังนั้นจึงมัจะสูญเสียคุณค่าของวิตามินไปขณะที่กำลังจะประกอบอาหาร เช่นกระบวนการต้มหรือนึ่งอาหารนานเกินไป หรือแม้แต่การแช่ผัก ผลไม้ไว้ในช่องแชเย็นแล้วนำไปแช่น้ำต่อ นอกจากนี้หากมีการคั้นน้ำผักหรือผลไม้ ก็ควรทานหลังจากคั้นทันที โดยไม่ควรทิ้งไว้นานเกิน 2 วัน จึงจะทำให้ร่างกายได้รับคุณค่าของวิตามินซีมากที่สุด
จำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพและปรนนิบัติผิว ด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ คอลลาเจน | วิตามินซี | อาหารเสริม