ทำความรู้จักคอลลาเจน

ทำความรู้จักคอลลาเจน

ทำความรู้จักคอลลาเจน ความหมายของคอลลาเจน คอลลาเจน คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีรูปแบบเป็นสายยาว ที่มีหน้าที่แตกต่างจากสารโปรตีนโดยทั่วไปเช่นเดียวกับเอนไซม์ ในส่วนของเส้นใยคอลลาเจนเป็ยสายเกลียวที่มีหน่วยของโมเลกุลเกี่ยวพันกันจำนวนมาก โดยปกติผิวหนังของคนเราจะมีคอลลาเจนที่ประกอบไปด้วยโครงสร้างจำนวนมาก จึงมีแรงสปริงและยืดหยุ่นได้เป็นอย่างดีตามไปด้วย สำหรับคอลลาเจนนั้นไม่ได้มีประกอบอยู่แค่ผิวหนังเท่านั้น แต่ยังมีอยู่อวัยะภายในร่างกายอยู่มาก ซึ่งได้แก่ ผังผืด เอ็น เอ็นกล้ามเนื้อ กระดูกอ่อน และกระดูก ที่สำคัญคอลลาเจนที่เป็นส่วนประกอบหลักของชั้นผิวของคนเราที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เคราติน เคราติน ช่วยทำหน้าที่สร้างความแข็งแรงและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว เมื่อสารเคราตินในชั้นผิวของสาวๆ ลดลงจะทำให้เกิดริ้วรอยบนชั้นผิวหนัง นอกจากนี้เคราตินมีหน้าที่ในการสร้างความยืดหยุ่นให้ผนังของหลอดเลือ มีส่วนช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อใหม่   ประโยชน์ของคอลลาเจน ช่วยทำให้ผิวหนังกำพร้าเก็บกักน้ำได้มากขึ้นทำให้ผิวหนังชุ่มชื่นขึ้น ช่วยทำให้ผิวพรรณมีความยืดหยุ่น กระชับใสและเรียบเนียน ป้องกันและลดเลือนริ้วรอย กระ ฝ้า และจุดด่างดำ ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวพรรณขาด กระจ่างใสขึ้น ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิวหนัง ทำให้ผิวหนังเต่งตึงขึ้น มีส่วนช่วยปกป้องผิวหนัง จากการถูกทำลายด้วยแสง UV ได้ ช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอในร่างกายทำให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น ช่วยบำรุงข้อต่อ ลดรอยแผลเป็น และการบำรุงเส้นผม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของข้อกระดูกทำให้ลดอาหารปวดตามข้อได้ อาหารที่มีคอลลาเจน                 เนื้อปลาทะเล สาหร่ายทะเลรือสาหร่ายน้ำจืด น้ำมะพร้าว เนื้อไก่ เนื้อหมู ไข่ขาว…

ทำความสะอาดผิวหน้า

การทำความสะอาดผิวหน้า

การทำความสะอาดผิวหน้า คนไทยในปัจจุบันนี้เริ่มหันมาให้ความสนในการดูแลรักษาสุขภาพกันมากขึ้น และสิ่งที่สำคัญอีกเรื่องคือใบหน้าของคนเราที่จะบ่งบอกว่าผู้นั้นมีสุขภาพดีหรือไม่ ดูแก่ก่อนวัยอันควรหรือเปล่า ซึ่งทุกคนทำความสะอาดใบหน้ากันทุกวันอยู่แล้ว แต่เคยถามตัวเองบ้างหรือป่าวว่าสารทั้งหลายที่นำมาใช้ทำความสะอาดผิวหน้านั้นมีผลอย่างไรบ้างกับผิวหน้า และเมื่อพูดถึงการทำความสะอาดผิวหน้าคนส่วนใหญ่จะใช้น้ำและสบู่ในการล้างหน้า     การทำความสะอาดผิวหน้าด้วยน้ำ                 น้ำเป็นสารทำความสะอาดที่ง่ายที่สุด แต่น้ำไม่มีคุณสมบัติทำให้ผิวเปียกได้ดี เนื่องจากผิวหนังของคนเรามีสารเคอราตินอยู่ซึ่งช่วยป้องกันเปียกได้ ดังนั้นการทำความสะอาดผิวหน้าน้ำก็ต้องใช้เวลานาน กว่าจะชำระสิ่งสกปรกออกไปได้หมด ซึ่งในบางครั้งก็ต้องมีการใช้การขัดถูเข้ามาช่วย จึงมีการเติมสารบางอย่างที่ลงไปในน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพนการทำความสะอาดผิวให้ดีขึ้น เช่น แอลกอฮอล์ ซึ่งจะช่วยลดแรงตึงผิวระหว่างน้ำกับผิวหนังให้เปียกน้ำขึ้นและช่วยขจัดไขมันในบางส่วนได้ ซึ่งด้วยเหตุผลเหล่านี้จึงนิยมนำเอาแอลกอฮอร์ใส่ในเครื่องสำอางที่ใช้ในการทำความสะอาดผิว แต่ควรใช้ในปริมาณที่ต่ำเพื่อเลี่ยงการระคายเคืองต่อผิว โดยแอลกอฮอล์ที่นิยมใช้มีอยู่ 2 ชนิดคือ เอธิล แอลกอฮอร์ซึ่งจะช่วยให้ความสดชื่นได้มากกว่าและช่วยให้กลิ่นของน้ำมันหอมแทรกซึมเข้าสู่ผิวได้ดี ส่วนไอโซโพรพีล แอลกฮอล์จะช่วยลดแแรงตึงของน้ำได้ดีกว่า จึงสามารถใช้ในปริมาณที่น้อยกว่าได้   การทำความสะอาดผิวหน้าด้วยสบู่                 สบู่เป็นสารที่ทำความสะอาดที่เก่าแก่ที่สุด และเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ราคาถูกใช้สะดวก ส่วนใหญ่จะเป็นสารผสมของเกลือโซเดียมกับกรดไขมัน ถ้าเป็นสบู่เหลวก็จะใช้เกลือโปตัสเซียมกับกรดไขมัน   สบู่มีผลต่อกระทบต่อการชำระล้างผิว ทำให้เกิดความเป็นด่างที่ผิวหนัง 5 – 10 นาที ก็จะกลับสู่ปกติใน 30 นาที ซึ่งความเป็ด่างจะทำให้เกิดอันตราบต่อผิวได้ เมื่อสัมผัสนานๆ ก็จะเกิดความผิดปกติของโปรตีนในผิวหนังทำให้ความต้านทางของผิวลดลง ทำให้สูญเสียความชื้นของผิว ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดเชื้อแบคทีเรีย…

ชนิดและส่วนประกอบของสบู่่

สบู่ และส่วนประกอบของสบู่

สบู่ และส่วนประกอบของสบู่ ปัจจุบันสบู่มีบทบาทในชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างมาก และได้รับการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนมีการสังเคาะห์สารใหม่ๆ ขึ้นมาก เพื่อที่จะใช้เป็นสารชำระล้างทดแทนมากมาย ซึ่งสบู่เป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่ได้จากการนำเอาน้ำมันพืช หรือไขมันสัตว์กับน้ำด่างได้จากการนำเอามาแช่น้ำ ทำขึ้นเพื่อใช้ทำความสะอาดร่างกายและเสื้อผ้า ชนิดและส่วนประกอบของสบู่่ ชนิดของสบู่                 – สบู่ก้อน เป็นสบู่ที่ได้มาจากการทำปฏิกิริยาระหว่างกรดไขมันกับสารละลายโซเดียมโฮดรอกไซด์ เนื้อสบู่ที่ได้เป็นก้อนลักษณะทึบแสง เมื่อเวลาแห้งและเย็นมีโซดาไฟเป็นส่วนประกอบหลัก มีเกลือโพแทสเซียมของกรดไขมันใช้สำหรับภายนอกเท่านั้น ไม่ควรใช้สบู่ก้อนสระผม เพราะจะทำให้เส้นผมและหนังศรีษะกระด้าง – สบู่ชนิดอ่อน มีลักษณะคล้ายน้ำผึ้งหรือเยลลี่สรเหลืองใส ทำด้วยน้ำมันมะกอกและโซดา – สบู่เหลว มีส่วนผสมของเกลือโพแทสเซียมกับกรดไขมัน และอาจมีส่วนผสมของน้ำมันมะกอก เมล็ดถั่ว เมล็ดฝ้าย และสมุนไพรอื่นๆ – สบู่ไขมัน ซึ่งสบู่ตัวนี้มีการเติมสารอิมอลเลียนที่เป็นฟิล์มบาง ซึ่งเมื่อใช้แล้วจะติดอยู่บนผิว ทำให้ผิวลื่น และป้องกันการสูญเสียความชื้นจากผิวหนังซึ่งจะเหมาะกับคนที่มีผิวแห้ง – สบู่ใส หรือสบู่กลีเซอรีน เป็นสบู่ที่มีเนื้อสบู่ทำเป็นก้อนมีความแข็งเหมือนกับสบู่แข็ง แต่จะมีลักษณะใส ผิวมันเงา การที่สบู่มีลักษณะใสก็เนื่องมาจากส่วนประกอบจองเอทานอล กลีเซรีนและน้ำตาลทราย โดยทั่วไปนิยมผลิตมาจากส่วนผสมของน้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะกอก ไขมันวัว น้ำมันละหุ่ง น้ำมันเมล็ดทานตะวัน และยางสน – ซินเดท เป็นสบู่ที่มีส่วนผสมของสารที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวหนัง…

ประโยชน์ของอะเซโรลา-เชอร์รี่

อะเซโรลา เชอร์รี่ มีประโยชน์อย่างไร

อะเซโรลา เชอร์รี่ มีประโยชน์อย่างไร                 อะเซโลรา เชอร์รี่ เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ คือวิตามินซี มีโปรตีนและแร่ธาตุสูงโดยเฉพาะ เหล็ก ฟอสฟอรัส แคลเซียม และมีสารสำคัฯตัวหนึ่งที่เชื่อว่าสามารถเสริมภูมิต้านทานของร่างกาย มีปริมาณของไขมันอิ่มตัว และโซเดียมต้ำ ไม่มีคลอเลสเตอรอล ประโยชน์ของอะเซโรลา เชอร์รี่ ช่วยเร่งการสร้างเสริมคอลลาเจน ช่วยให้ผิวเต่งตึงผิวพรรณดูอ่อนกว่าวัย และทำให้ผิวกระชับและยืดหยุ่นอยู่เสมอ ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้น ลดการเกิดจุดด่างดำ ที่เกิดจากมลพิษหรืออันตรายจากแสง UV ช่วยให้ผิวหนังดูอิ่มน้ำและคงความชุ่มชื้นไว้ และทำให้ผิวหนังแก่ช้าลงเมื่ออายุมากขึ้น ช่วยเพิ่มประสิมธิภาพการทำงานของคอลลาเจน ช่วยลดเลือนริ้วรอยต่างๆ บนผิวหนัง เพื่อความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง ช่วยเร่งการฟื้นฟูซ่อมแซมบาดแผล แผลไฟไหม้ แผลเป็น ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของผิว ช่วยต่อสู่กับรอบเหี่ยวย่นบนใบหน้า ริ้วรอยร่องตื่น จุดด่างดำ รองหมองคล้ำ ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะช่วยปกป้องผิวหนังที่ถูกจากการทำลาย   อะเซโรลาเชอร์รี่ กินตอนไหนดี                 สำหรับอะเซโรล่าเชอร์รี่เป็นอาหารเสริมวิตามินที่ประสิทธิภาพมากกว่าวิตามินซีทั่วไป ซึ่งมีปริมาณของวิตามินซีสูงกว่าที่พบในส้มมากถึง 30-80 เท่า ทำให้สามารถกินตอนไหนก็ได้ อาจจะกินในช่วงเช้า หรือก่อนนอน หรือกินคู่กับอาหารเสริมอื่นๆ เพื่อช่วยดูดซึมอาหารเสริมนั้นๆ ให้ได้รับประสิทธิภาพสูงสุด…