วิตามินซีกับการป้องกันหวัด

วิตามินซีกับการป้องกันหวัด วิตามินซี หรือ Ascorbic Acid นั้นเป็นวิตามินชนิดละลายน้ำ ซึ่งมีประโยชน์มากมายไม่ว่าจะเป็นรักษาและป้องกันโรคลักปิดลักเปิด เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย นอกจากนี้ยังส่วนช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อในร่างกาย ช่วยทำให้แผลหายเร็วขึ้น และส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจน แต่ก็มีหลายคนนั้นบอกอีกว่าวิตามินซีสามารถช่วยป้องกันหวัดได้ แต่ก็จะเสียงอีกด้านสงสัยว่าวิตามินซีนั้นสามารถป้องกันหวัดได้จริงหรือ วันนี้เรามาหาคำตอบกัน วิตามินซี ป้องกันหวัดได้จริงหรือ แม้หลายคนจะมีความเชื่อหรือได้ยินมาว่าวิตามินซีช่วยป้องกันโรคหวัดได้ หรือเมื่อเป็นหวัดให้รีบทานวิตามินซีเพื่อให้หายจากอาการหวัด แต่ผลการศึกษาที่ปรากฏกลับพบว่าการทานวิตามินซีเป็นประจำอย่างเพียงพอนั้นมีส่วนช่วยลดความรุนแรงและระยะเวลาในการเป็นหวัดได้เท่านั้น แต่ไม่ได้มีข้อบ่งชี้ที่บอกว่าวิตามินจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคหวัดขึ้นได้แต่อย่างใด เว้นแต่เป็นคนที่ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำเช่นวิ่งมาราธอน จ๊อกกิ้งยามเช้า หรือผู้ที่ร่างกายมีภูมิต้านทานแข็งแรงอยู่แล้วมักมีแนวโน้มของการฟื้นตัวได้เร็วกว่า การดูดซึมวิตามินซี การดูดซึมวิตามินซีนั้นจะขึ้นอยู่กับการรับประทานเข้าไปในแต่ละครั้ง แต่ก็จะจุดอิ่มตัวของวิตามินซีเช่นกัน หรือพูดง่าย ๆ ก็คือถ้ารับประทานวิตามินซีปริมาณมากเกินจุดอิ่มตัวของการดูดซึม ร่างกายจะไม่สามารถดูดซึมวิตามินซีไปใช้ได้เพิ่มขึ้น ดังนั้นการทานวิตามินซีแต่ละครั้ง  จึงจะต้องรับประทานให้พอเพียงกับปริมาณที่ร่างกายต้องการ เพราะร่างกายจะได้ดูดซึมไปใช้งานไปหมดแบบไม่เหลือส่วนเกิน เพราะส่วนเกินนั้นจะถูกขับออกมาทางปัสสาวะนั่นเอง วิตามินซีในท้องตลาดมีแบบไหนบ้าง รูปแบบเม็ดสำหรับรับประทาน เป็นรูปแบบที่มีการเลือกซื้อมารับประทานมากที่สุด เพราะเป็นรูปแบบที่สามารถรับประทานได้ง่าย พกพาสะดวก สามารถทานได้ทุกที่ทุกเวลา มีระยะเวลาที่ปล่อยสารเข้าสู่ร่างกายที่แน่นอน รูปแบบเม็ดอม เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาในการกลืนเม็ดยา แต่เนื่องจากวิตามินซีเป็นกรดเมื่ออมบ่อย ๆ อาจทำให้ฟันกร่อนได้ รูปแบบเม็ดฟู่ แบบนี้จากจากแบบเม็ดอื่น ๆ เพราะจะต้องนำไปละลายน้ำก่อน เมื่อเม็ดยาสัมผัสกับน้ำ จะเกิดเป็นฟองฟู่ ก่อนรับประทานควรรอให้ฟองหมดก่อน แล้วค่อยรับประทาน รูปแบบแคปซูล…

ผิวสวยใสพร้อมสุขภาพดี ด้วยวิตามินซี

ผิวสวยใสพร้อมสุขภาพดี ด้วยวิตามินซี วิตามินซี ถือเป็นวิตามินที่ทุกคนรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะสามารถหารับประทานได้ง่ายจากผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว ไม่ว่าจะเป็น มะขามป้อม สตรอว์เบอร์รี่ มะนาว และอีกหลายอย่างมากมาย แต่รู้หรือไม่ว่า วิตามินซี นั้นมีประโยชน์มากมายหลายอย่างที่หลายคนไม่เคยได้รู้ว่า วิตามินซีนั้นมีมากกว่าช่วยในเรื่องความขาวใส โดยมีดังต่อไปนี้ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ถือเป็นประโยชน์ข้อแรก ๆ ของวิตามินซีเลยก็ว่าได้ ซึ่งวิตามินซีนั้นจะเข้าไปช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของเม็ดเลือดขาว ทำให้เม็ดเลือดขาวกำจัดเชื้อได้ดีขึ้น สามารถป้องกันหวัด และภูมิแพ้ ซึ่งจะทำให้เราไม่ป่วยง่าย หรือถ้าเป็นแล้วก็มีโอกาสหายเร็วกว่าคนอื่น ๆ อีกด้วย ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระ หรือ แอนติออกซิแดนท์นั้นคือตัวทำลายภูมิคุ้นกัน ส่งผลให้เซลล์ภายในร่างกายทำงานผิดปกติ และทำให้อวัยวะภายในร่างกายเสื่อมถอยลงไป ดังนั้นถ้าไม่อยากให้อวัยวะในร่างกายเสื่อมถอยนั้น จะต้องได้รับวิตามินซีเข้าไป ซึ่งวิตามินซีนั้นจะเข้าไปช่วยชะลอความเสื่อมสภาพและช่วยปกป้อง ฟื้นฟูเซลล์ผิวให้กลับมาดีเหมือนเดิม เสริมสร้างคอลลาเจน วิตามินซีกับคอลลาเจนเข้ากันยังไง ? วิตามินซีนั้นจะไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน โดยคอลลาเจนนั้น จะช่วยเพิ่มความกระชับและยืดหยุ่นของผิวพรรณ ทำให้ผิวพรรณเต่งตึง ไม่เหี่ยวย่นก่อนวัย ไม่มีริ้วรอยต่าง ๆ จุดด่างดำต่าง ๆ ลดเลือนลง รวมถึงยังช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนเลือด ช่วยให้ผิวดูมีสุขภาพดี และอีกประโยชน์ที่สำคัญคือ เสริมสร้างคอลลาเจนในกระดูก ดังนั้นวิตามินซีจึงถูกนำไปใช้เสริมในผู้ป่วยที่มีปัญหากระดูกหัก…

ผิวสวยใส เปล่งปลั่งได้ง่ายกับอาหารบำรุงผิว

ผิวสวยใส เปล่งปลั่งได้ง่ายกับอาหารบำรุงผิว ผิวเปล่งปลั่ง สดใส ดูสุขภาพดีนั้น ไม่ว่าใครก็อยากมีกันทั้งนั้น ซึ่งผิวที่ดูสวยสุขภาพดีนั้นคือผิวที่สวยมากจากภายใน ด้วยการนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ที่ขาดไม่ได้นั้นก็คือการทานอาหารบำรุงผิว ทั้งอาหารธรรมดาหรือแม้แต่อาหารเสริมบำรุงผิว โดยอาหารเหล่านั้นต่างมีส่วนช่วยทั้งบำรุงผิวพรรณ ชะลอความแก่ ลดสิวและริ้วรอย ทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งขึ้นอย่างธรรมชาติ โดยอาหารบำรุงผิวมีดังต่อไปนี้ ปลาทะเล ปลาทะเลที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง ที่มีอยู่ในปลาแซลมอน ปลาแมคเคอรอล ปลาซาดีนปลาทูน่า ซึ่งคอลลาเจนในปลาเหล่านี้จำเป็นต่อผิวพรรณอย่างมาก เพราะจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และลดการอักเสบ แถมยังอุดมไปด้วยวิตามินอี สารต้านอนุมูลอิสระ และแร่ธาตุอย่างสังกะสีที่ช่วยกำจัดสิว และอาการระคายเคือง บำรุงผิวให้เต่งตึง ดูสดใสและมีออร่าจากภายใน โดยปลาทะเลนั้นนอกจากจะรับประทานกันทั่วไปแล้ว คอลลาเจนผง ที่จำหน่ายกันตามท้องตลาดนั้นส่วนใหญ่ก็มักสกัดมาจากปลาทะเลด้วยเช่นกัน ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ อาหารเสริมบำรุงผิวส่วนใหญ่นั้นมักจะมีส่วนผสมมาจากผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ไม่ว่าจะเป็นแบล็กเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ และสตรอว์เบอร์รี่ ต่างก็อุดมไปด้วยวิตามินซี ช่วยบรรเทาไข้หวัด และสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถช่วยลดการเสื่อมของเซลล์ผิว และปกป้องผิวจากรังสี UV รวมถึงช่วยกระตุ้นการเกิดเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวพรรณดูขาว ใส เปล่งปลั่ง ดูอ่อนกว่าวัย และยังช่วยลดปัญหาการเกิดสิว ริ้วรอย ฝ้า…

ช่วงอายุไหนมีการสูญเสียคอลลาเจนอย่างไรบ้าง

ช่วงอายุไหนมีการสูญเสียคอลลาเจนอย่างไรบ้าง เป็นเรื่องปกติของแต่ละช่วงวัยของคนเรา ที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะด้านใดด้านหนึ่งเสมอ เช่นเมื่ออายุมากขึ้นร่างกายของเราก็จะไม่แข็งแรงเหมือนตอนเป็นวัยรุ่นหรือวัยหนุ่มสาว ส่งผลให้สิ่งต่าง ๆ ภายในร่างกายเสื่อมลง รวมไปถึงคอลลาเจน คอลลาเจนนั้นมีอยู่ในร่างกายเป็นจำนวนมาก แต่เหมือนคนเราอายุเริ่มเข้า 25 ปี ร่างกายจะทำการผผลิตคอลลาเจนได้น้อย และจะน้อยลงเรื่อย ๆ สวนกับอายุที่มากขึ้น ทำให้ผิวพรรณของร่างกายที่มีคอลลาเจนล่อเลี้ยงอยู่นั้นมีน้อยลง ทำให้ผิวพรรณเกิดความหย่อนคล้อย เริ่มปรากฏริ้วรอยแห่งวัยต่าง ๆ ดังนั้นในวันนี้เราจะมาดูกันว่าในแต่ละช่วงอายุนั้นเมื่อขาดคอลลาเจนจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง คอลลาเจนคืออะไร ? คอลลาเจน คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในร่างกายคนเราตามธรรมชาติ ประกอบไปด้วยสาระสำคัญ 2 ชนิด คือ Proteoglycan และ Glycosaminoglycans ซึ่งเป็นโปรตีนที่เป็นโครงสร้างหลักของผิว เส้นผม เล็บ กระดูก ข้อต่อ ตลอดจนผนังหลอดเลือด ทำหน้าที่เป็นตัวประสานเนื้อเยื่อของผิวหนัง และเชื่อมต่ออวัยวะทุกสส่วนของร่างกายไว้ด้วยกัน ปัจจัยที่ทำให้คอลลาเจนเสื่อมสลาย การเกิดอนุมูลอิสระ อันเนื่องมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตทำร้ายผิวเช่น การสูบบุหรี่ แสงแดด การได้รับมลพิษ อายุที่เพิ่มมากขึ้น สารปนเปื้อนที่อยู่ในอาหารา การเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมน ช่วงที่อายุเริ่มสูญเสียคอลลาเจน อายุ 25 -30 ปี…