เพิ่มภูมิคุ้มกันช่วงโควิดระบาด ด้วยอาหารเสริม
มันกลับมาอีกแล้ว เมื่อเดือนที่แล้วที่มียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงขึ้นมากเป็นเท่าตัว ทำให้ผู้คนต่าง ๆ จากที่ระมัดระวังตัวกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ยิ่งต้องระมัดระวังตัวมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องด้วยการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในรอบนี้เป็นสายพันธุ์อังกฤษ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่และเกิดระบาดช่วงเทศกาลสงกรานต์อีกด้วย ทำให้การแพร่ระบาดนั้นกระจายไปทั่วประเทศ
โดยวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้คือการระมัดระวังตัว หมั่นล้างมือบ่อย ๆ สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างทางสังคม และงดไปพื้นที่เสี่ยงหากไม่จำเป็น แต่ชีวิตของเรานั้นก็ยังจะต้องดำเนินต่อไป บางคนอาจจะอยู่บ้านได้ตลอด เวลา และสามารถทำงานที่บ้านได้ แต่บางคนก็มีเหตุที่จะต้องออกจากบ้านไปทำงานหรือไปทำธุระสำคัญ ในสถานการณ์อย่างนี้ การเพิ่มภูมิกันของร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอนั้นจึงเป็นสำคัญ
หากพูดถึงการเพิ่มภูมิคุ้มกัน ให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอนั้น เป็นอีกแนวทางที่ช่วยลดความเสี่ยงหรือความรุนแรงจากเชื้อไวรัสต่าง ๆ ได้และยังเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ไม่ยาก โดยการทานอาหารหรืออาหารเสริมที่มีสารอาหารช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน หรือเสริมสร้างภูมิต้านทาน ซึ่งสารอาหารเหล่านั้นมีดังต่อไปนี้
วิตามินซี
วิตามินซี ช่วยทำงานของเม็ดเลือดขาวและช่วยกระบวนการทำลายเชื้อโรค โดยรวมต้องการต่อวันตามข้อกำหนดปริมาณสารอาหารอ้างอิงที่ควรได้รับประจำวันสำหรับคนไทย พ.ศ.2563
- เด็กอายุ 1 – 8 ปี ควรได้รับ 25 – 40 มิลลิกรัมต่อวัน
- เด็กและวัยรุ่นช่วงอายุ 9 – 18 ปี ควรได้รับ 60 – 100 มิลลิกรัมต่อวัน
- อายุตั้งแต่ 19 ปีขึ้นไปควรได้รับ 85 – 100 มิลลิกรัมต่อวัน
ซึ่งแหล่งวิตามินในอาหารจะอยู่ในผักและผลไม้เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากวิตามินซีจะสูญเสียได้ง่ายเมื่อโดนความร้อนและสัมผัสกับน้ำโดยตรง ดังนั้นการปรับกระบวนการปรุงประกอบผักดิบโดยการนิ่งหรือผัดที่ใช้ระยะสั้น ๆ ก็จะช่วยสงวนวิตามินซีในผักได้ดียิ่งขึ้น
ตามคำแนะนำการรับประทานผักและผลไม้ให้ได้อย่างน้อย 400 กรัม และเลือกผักหหรือผลไม้ที่เป็นแหล่งของวิตามินซี ก็จะสามารถได้รับวิตามินซีที่เพียงพอ
วิตามินเอ
วิตามินเอ มีส่วนช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน โดยแหล่งอาหารที่ดีที่ร่างกายสามารถดูดซึมและใช้ประโยชน์ได้สูง ได้แก่ เครื่องในสัตว์ ไข่แดง นม ผลิตภัณฑ์จากนม และแหล่งอาหารรองลงมาจะได้จากพืชได้แก่ ผักใบเขียวเข้ม ผักและผลไม้สีเหลืองและส้มเช่น ตำลึง ผักบุ้ง แครอท ฟักทอง มันเทศมีเหลือง และมะละกอสุก
สังกะสี
มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตและแบ่งเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน รวมทั้งควบคุมการทำงานของเอนไซม์ที่เป็นกลไกหลักในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งแหล่งอาหารที่ดีเมื่อพิจารณาจากปริมาณและการดูดซึมเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ ได้แก่เนื้อสัตว์และเครื่องใน หอยนางรม สัตว์ปีกและปลา และที่รองลงมาได้แก่ ไข่ นม
โปรตีน
ช่วยสร้างเซลล์ภูมิคุ้มกันและสารภูมิคุ้มกันต่าง ๆ ซึ่งโปรตีนที่มีคุณภาพดีมีกรดอะมิโนจำเป็นที่ครบถ้วน สามารถได้รับจากเนื้อสัตว์ ไข่ นม (พร่องหรือขาดมันเนย) ชีส (เลือกชนิดที่ไขมันต่ำ) เต้าหู้ ถั่วเหลือง สำหรับโปรตีนจากพืช เช่น ถั่วต่าง ๆ เมล็ดพืชต่าง ๆ สามารถเลือกรับประทานควบคู่กับแหล่งอาหารจากพืชอื่น ๆ เพื่อเติมเต็มในส่วนของกรดอะมิโนจำเป็นที่โปรตีนจากพืชชนิดนั้น ๆ ไม่ครบถ้วน เช่น ถั่วเมล็ดแห้ง (ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วดำ) คู่กับถั่วเปลือกแข็งหรือเมล็ดพืช
จุลินทรีย์สุขภาพ (โพรไบโอติกส์) และอาหารสำหรับจุลินทรีย์สุขภาพ (พรีไบโอติกส์)
ช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย โดยแหล่งอาหารที่ดีที่มีจุลินทรีย์สุขภาพได้แก่ โยเกิร์ตและนมเปรี้ยวที่ระบุไว้ว่ามีการเติมโพรไบโอติกส์ แต่ควรเลือกที่น้ำตาลต่ำ สำหรับอาหารสำหรับจุลินทรีย์สุขภาพ ส่วนใหญ่แล้วอยู่ในแหล่งอาหารที่มีใยอาหารสูง เช่น ธัญพืช ข้าวโอ๊ต ถั่วเมล็ดแห้ง กล้วย หัวหอมใหญ่ กระเทียม หน่อไม้ฝรั่ง
นอกจากการรับประทานอาหารที่มีสารอาหารเหล่านี้เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้แล้วนั้น การทานอาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของสารเหล่านี้ก็สามารถช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันได้เช่นกัน ดังนั้นการทานอาหารเสริมที่มีสารอาหารช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง เพื่อลดความเสี่ยงหรือความรุนแรงจากเชื้อไวรัสต่าง ๆ ได้
แหล่งที่มา : www.rama.mahidol.ac.th
จำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพและปรนนิบัติผิว ด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ คอลลาเจน | วิตามินซี | อาหารเสริม