ข้อควรรู้เกี่ยวกับอาหารเสริม-และเสริมอาห

ข้อควรรู้ เกี่ยวกับอาหารเสริม และเสริมอาหาร

ข้อควรรู้ เกี่ยวกับอาหารเสริม และเสริมอาหาร   ในปัจจุบันนี้คนเราให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น ทั้งสุขภาพร่างกายภายในและภายนอก ด้วยการออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว ขับถ่วยให้เป็นระบบ พักผ่อนให้เพียงพอ หากแต่ว่าบางคนนั้นไม่สามารถทำให้ครบทุกอย่าง หรือบางคนทำแล้วแต่ว่ายังไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงมีอาหารเสริมเพื่อเข้าไปทดแทนและเพิ่มเติมให้กับร่างกายตามที่ต้องการจึงเรียกได้ว่าอาหารเสริมนั้น ได้เข้ามามีบทบาอย่างมาและเป็นทางเลือกที่สำคัญของผู้บริโภค เกี่ยวกับอาหารเสริม ความหมายของอาหารเสริมและเสริมอาหาร อาหารเสริมตามธรรรมชาติ  โดยที่ตั้งแต่เป็นเด็กทารกต้องมีอาหารเสริมให้ทานควบคู่กับนมแม่เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและเจริญเติบโตเช่น กล้วยบด ผัดบด หรือนมผง เพื่อให้ได้รับสารอาหารแบบครบถ้วน อาหารเสริม เมื่อร่างกายมีสารอาหารไม่ครบหรือไม่เพียงพอ อาจจะทำให้เกิดสภาวะขาดสารอาหารได้   ต้องการอาหารเสริมเพื่อบำรุงสุขภาพ เมื่อร่างกายต้องการบำรุงร่างกายและเสริมสุขภาพ จึงมีการเพิ่มอาหารเสริมให้กับร่างกาย หากว่าได้รับสารอาหารแบบไม่ครบถ้วน จึงต้องหาผลิตภัณฑเสริมอาหารให้กับร่างกาย เพื่อให้สุขภาพดี ทั้งยังบำรุงสมอง บำรุงเส้นผม บำรุงสายตา และอื่นๆ อีกมากมาย อย่างเช่น วิตามิน แคลเซียม คอลลาเจน ซึ่งก็แล้วแต่ผู้บริโภคต้องการเสริมหรือต้องการบำรุงในด้านใดด้านหนึ่งให้กับร่างกาย   ป้องกันโรคด้วยอาหารเสริม อาหารเสริมเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สำคัญ ซึ่งทุกคนต่างรู้ว่าการป้องกันดีกว่าการแก้ไข เพราะถ้าหากเกิดโรคหรือเจ็บป่วยขึ้นมาแล้วต้องทำการรักษา ก็ย่อมจะเกิดผิวเสียมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพอแย่ลง เสียเวลา มีค่าใช้จ่ายมาก ซึ่งก็สามารถป้องกันหรือหลีกเลี่ยงได้ ก็ต้องหาอาหารเสริมต่างๆ…

กินวิตามินซีอย่างไร-ให้เกิดประโยชน์สูงสุ

กินวิตามินซีอย่างไร ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

กินวิตามินซีอย่างไร ให้เกิดประโยชน์สูงสุด วิตามินซีเป็นวิตามินที่ร่างกายต้องการเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่ามีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิต้านทาน ต่อต้านอนุมูลอิสระและช่วยบำรุงผิวพรรณได้อย่างดี ดังนั้นจึงต้องเสริมวิตามินซีให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยสามารถหาวิตามินซีได้จากพืชผักผลไม้ และจากวิตามินซีที่อยู่ในรูปของอาหารเสริม รู้ได้อย่างไรว่าร่างกายต้องการวิตามินซีเท่าไร                 การที่จะทราบได้นั้นจะต้องให้แพทย์เป็นผู้ตรวจวินิจฉัยและวิเคราะห์ และเลืออาหารเสริมอย่างเหมาะสม เนื่องจากว่าร่างกายของคนเรามีความต้องการที่ไม่เท่ากัน ทั้งจากรูปแบบการใช้ชีวิต เช่น การทานอาหาร ทำงานหนัก เครียด พักผ่อนน้อย ออกกำลังกายมากหรือแม้แต่โรคภัยพที่มีอยู่แล้ว   กินวิตามินซีให้เกิดประโยชน์สูงสุด ให้กินวิตามินหลังอาหาร เพราะว่าอาหารจะช่วยให้การดูดซึมวิตามินให้เป็นไปอย่างช้าๆ และควรกินในตอนเช้า เพราะร่างกายจะได้นำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ ห้ามกินวิตามินซี พร้อมเครื่องดื่มประเภทชา กาแฟ เพราะชาและกาแฟจะลดการดูดซึมของวิตามินอย่างมีนัยสำคัญ หากติดเครื่องดื่มประเภทนี้ ให้กินวิตามินหลังอาหารทันที แล้วเว้นช่วงสักประมาณ 1-2 ชั่วโมง แล้วค่อยดูกาแฟ วิตามินซีกินเพื่อให้ผลเชิงป้องกัน ในระยะยาวอาจจะไม่เห็นผลเปลี่ยนแปลงอย่างทันที ยกเว้นแต่มีปัญหาการขาดวิตามินมากก่อน ไม่ควรทานวิตามินซีต้องท้องว่าง เพราะว่าวิตามินซีมีฤทธิ์กรด อาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองได้ ทานวิตามินเสริมดีหรือไม่                 โดยปกติทั่วไปคนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปควรที่ได้รับวิตามินซี 60-90 mg. ต่อวัน ส่วนเด็กต้องการวิตามินซี 30-50 mg. ต่อวัน แต่ก็สามารถทานได้ราวๆ…

รักษาโรคข้อเสื่อม-ด้วยการเสริมสร้างคอลลา

โรคข้อเสื่อม รักษาด้วยคอลลาเจน

โรคข้อเสื่อม รักษาด้วยคอลลาเจน                 คอลลาเจน คือโปรตีนชนิดหนึ่งทีเป็นส่วนประกอบสำคัญของผิวหนัง โดยจะอยู่ในผิวหนังชั้นแท้ ซึ่งทำหน้าที่ในการเสริมความเรียบตึงของผิวหนัง ทำให้ผิวกระชับ และเรียบเนียน แต่หากว่าคอลลาเจนถูกทำลายจากมลภาวะ ความเครียด เช่น แสงแดดหรืออนุมูลอิสระ  จะทำให้เกิดปัญหาเรื่องริ้วรอยเหี่ยวย่นตามมา ถ้าต้องการที่จะแก้ไขปัญหานี้ก็ต้องปกป้องผิวและเสริมสร้างคอลลาเจน เช่น การทานอาหารที่มีโปรตีนซึ่งกรดอะมิโนที่สาามารถนำไปใช้เป็นสารตั้นต้นในการสังเคราะห์คอลลาเจนและสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี วิตามินอี เป็นต้น นอกจากจะพบคอลลาเจนที่ผิวหนังแล้ว ยังพบอวัยวะอื่นด้วย เช่น กระดูกอ่อนบริเวณข้อกระดูก โดยที่คอลลาเจนในอวัยวะส่วนนั้นเสื่อมหรือเสียหายไป อวัยวะก็จะผิดปกติได้                 คอลลาเจนชนิดที่พบใรกระดูกอ่อนและหมอนรองกระดูกสันหลัง เป็นชนิดที่เรียกกว่าคอลลาเจนไทพ์ทู โดยจะทำหน้าที่รองรับน้ำหนัก ลดแรงกระแทรกรวมไปถึงความแข็งแรงในขณนะที่มีการเคลื่อนไหวต่างๆ เมื่อคอลลาเจนเสื่องลงตามวัย และตามพฤติกรรมที่ทำร้ายข้อต่อต่าง ก็จะทำให้มีปัญหาขึ้นกับกระดูกอ่อนซึ่งได้แก่ โรคข้อเสื่อ ดังนั้นการชะลอหรือการลดการเกิดปัญหาข้อเสื่อก็สามารถทำได้ ถ้าหากว่าร่างกายได้รับคอลลาเจนที่เพียงพอ   โรคข้อเสื่อม                 อาการของโรคข้อเสื่อม โดยระยะแรงจะมีอาการเจ็บเสียวที่ข้อเขาเวลาขึ้นลงบันได้ ข้อจะยึดหรือข้อติดเวลานั่งนานๆ  มีอาการติดขัด เวลาขยับ มีเสียงกรอบแกรบในข้อ และก็จะมีอาหารติดขัดมากขึ้นเรื่อยๆ ตามวัย และอาหารปวดก็จะตามมา จากที่ปวดน้อยๆ ก็จะหลายมาเป็นปวดมากขึ้นเรื่อยๆ การรักษาในระยะแรกอาจจะใช้ยาทานแก้ปวด ซึ่งถ้าหากทานไปนานๆ อาจะมีผลข้างเคียงเช่น กัดกระเพาะ…

รอบรู้เรื่องวิตามินชี

รอบรู้เรื่องวิตามินชี

รอบรู้เรื่องวิตามินชี                 มีหลายคนที่ชื่นชอบทานวิตามินซีเพื่อให้ผิวแลดูสว่าง กระจ่างใส แต่ทราบหรือไม่ว่าการทานวิตามินซีเพื่อผิวพรรณที่ดีในรูปแบบของอาหารเสริมนั้น ไม่เพียงแค่ว่าทานเข้าไปเฉยๆ แต่ยังมีข้อควรระวังในการทานวิตามินซีเพื่อให้ได้ผลดีกับร่างกายมากที่สุด และเพื่อไม่ให้ส่งผลเสียต่อร่างกายอีกด้วย   ปริมาณวิตามินซีต่อวันที่ร่างกายควรได้รับ                 ปริมาณความต้องการต่อวันของวิตามินซี ซึ่งปริมาณที่ร่างกายคนเราควรได้รับสำหรับผู้ชายอยู่ที่ประมาณ 90 mg ผู้หญิงอยู่ที่ประมาณ 75 mg สตรีมีครรภ์จะประมาณ 90 mg ส่วนสตรีที่ให้นมบุตรจะอยู่ที่ประมาณ 75-120 mg แต่สำหรับคนที่สูบบุหรี่นั้นควรได้รับมากกว่าคนปกติ 35 mg เพราะบุหรี่เป็นศัตรูที่จะทำให้วิตามินซีสลายไปอย่างรวดเร็ว และสำหรับคนที่เป็นหวัดบ่อยๆ สามารถทานวิตามินซีเพิ่มได้อีก 40 mg ของคนทั่วไป เพราะถือว่าเป็นกลุ่มคนที่ขาดวิตามินซีมากกว่าคนอื่นๆ ถ้าหากใครที่เลือกทานวิตามินซีจากผลิตภัณฑ์อาหารเสริมก็ควรเลือกทานที่ประมาณ 500-1,000 mg ต่อวัน ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละบุคคลด้วย หรือถ้าใครต้องการทราบว่าร่างกายตัวเองต้องการปริมาณวิตามินซีต่อวันเท่าไร ก็ต้องไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยญชาญพิเศษเพื่อที่จะคำนวณปริมาณที่แน่นอนเหมาะสมกับสภาพร่างกายของตัวเอง ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกาย   ทานมาเกินไปส่งผลเสียหรือไม่ ผลข้างเคียงจากการทานวิตามินซีมากเกินไป จะขึ้นอยู่กับระบบทางเดินอาหารและระบบย่อยอาหารที่อาจจะทำให้เกิดอาการแสบท้องไม่สบายท้อง รวมไปถึงโอกาสทที่จะเกิดท้องเสียได้ด้วย ดังนั้นเพื่อการป้องกันปัญหาดังกล่าวจึงควรทานวิตามินซีให้พอเหมาะกับร่างกาย ไม่ควรทานมากหรือน้อยเกินไป   ควรทานวิตามนิซีตอนไหน หลายคนสงสัยว่าควรทานวิตามินซีเวลาไหนดี ความจริงแล้ววิตามินซีไม่ได้มีข้อกำหนดว่าต้องทานเวลาใด เพราะว่าวิตามินสามารถละลายน้ำได้และดูดซึมเข้าไปในร่างกายได้อยู่แล้ว แต่หากให้เลือกเวลาที่เหมาะสมที่สุด…

การดูแลสุขภาพด้วยวิตามินซี

วิตามินซี ช่วยดูแลสุขภาพ

วิตามินซี ช่วยดูแลสุขภาพ                 โดยทั่วไปแล้วทุกคนทราบดีว่าการทายวิตามินซีเป็นประขำทุวันนั้น จะช่วยเสริมส้รางภูมิต้านทานได้ ทำให้ไม่เป็นหวัดบ่อยและหายจากโรคหวัดได้เร็วขึ้น หากว่าร่างกาบได้รับวิตามินซีวันละ 1000 มิลลิกรัมก็สามารถป้องกันหวัดได้ แล้วถ้าหากเป็นหวัดก็สามารถทำให้หาบเร็วกว่าเดิม วิตามินซี ช่วยดูแลสุขภาพ วิตามินซีนั้นมีคุณสมบัติในการทำให้เม็ดเลือดขาวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้วิตามินยังสามารถช่วยลดการก่อภูมิแพ้ในร่างกายหรือสารฮิสตามินได้ ซึ่งสารตัวนี้จะถูกกระตุ้นให้มีปริมาณที่สูงขึ้นถ้าหากว่าเมื่อร่างกายได้สัมผัสก็จะทำให้เกิดการแพ้ แต่ถ้าร่างกายได้รับวิตามินซีอย่างเพียงพอ ก็จะสามารพบบรรเทาอาการได้ นอกจากนี้วิตามินซียังมีส่วนช่วยในการดูแลสุขภาพอีกมากมาย   วิตามินซี ช่วยบำรุงสุขภาพผิวได้                 ในการดูแลดูสุขภาพเพื่อให้มีผิวพรรณที่ดี การทานผักผลไม้สดก็จะทำให้ผิวพรรณสวย เหงือและฟันก็แข็งแรง เพราะว่าวิตามินซีในผักผลไม้มีส่วนในการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตของผิวให้ทำงานดีขึ้น เมื่อมีการไหลเวียนที่ดีก็จะทำให้มีสุขภาพผิวดี เรียบเนียน วิตามินซียังมีส่วนช่วยในการเพิ่มการสังเคราะห์คอลลาเจนในเซลล์ ทำให้ผิวแน่นและยืดหยุ่นได้ดี                 นอกจากนี้วิตามินซียยังช่วยให้แผลหายได้เร็วขึ้น เนื่องจากว่าวิตามินซีในร่างกายจะช่วยซ่อมแซมและรักษาตัวเองเพื่อไปเสริมสร้างผนังเซลล์ ทำให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง ทำให้แผลหายเร็วขึ้น   การทานวิตามินซีจากผัก ผลไม้อย่างเดียวอาจจะไม่พอ                 เนื่องจากว่าวิตามินซีนั้น เป็นวิตามินที่ละลายได้ง่ายหากมีการสัมผัสกับอากาศ ควมร้อน หรือว่าความชื้น การที่ทานเลือกทานผัก ผลไม้ที่สดหรือเก็บจากต้นจะยิ่งดี เช่น ส้ม 1 ลูกที่เก็บมาใหม่ๆ จากต้นจะมีปริมาณวิตามินซ 20-40 มิลลิกรัม ซึ่งถ้าหากว่าร่างกายต้องการเพียงพอไม่ให้ขาดวิตามินซีต้องทานส้มวันละ 2-3 ลูก แต่ในความเป็นจริงแล้วมันทำไม่ได้…

ทำไหมต้องทานคอลลาเจน--มีความจำเป็นหรือไม่

คอลลาเจน มีความจำไหม

คอลลาเจน มีความจำไหม                 เมื่อพูดถึงคอลลาเจนในปัจจุบันช่างเป้นอาหารเสริมที่กำลังฮิตมากในหมู่สาวๆ ที่รักความสวยความงาม เนื่องจากคุณสมบัติของคอลลาเจนที่ทำให้ผิวขาวสวย เด้ง มีสุขภาพดีด้วยแล้ว สาวๆ ทั้งหลายก็ไม่อาจจะปฏิเสธไม่ได้ คอลลาเจนที่นำมาบริโภคนั้นมีทั้งแบบน้ำ แบบผง และแบบฉีด ซึ่งแบบที่เห็นผลได้เร็วที่สุดในก็ต้องเป็นแบบฉีด เนื่องจากวว่าเข้าถึงร่างกายได้โดยตรง แต่คอลลาเจนแบบฉีดนนั้นมีราคาที่แพงทำให้ไม่เป็นที่นิยม แต่ที่เห็นขายดี ขายเกลื่อท้องตาลดในตอนนี้ก็จะเป็นคอลลาเจนแบบผง ซึ่งก็มีอยู่หลากหลายนี่ย้อ เนื่องจากว่าทานง่าย และสามารถนำมาผสมกับน้ำผลไม้ได้ ซึ่งคอลลาเจนก็มีความจำเป็นต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เรามาดูกันดีกว่าคอลลาเจนมีประโยชน์กับร่างกายบ้าง คอลลาเจนมีคุณสมบัติเป็สารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ จึงป้องกันและเพิ่มปริมาณคอลลาเจนในร่างกาย เพื่อเป็นการเกิดริ้วรอยลึก โดยจะไปจัดการกับสารอนุมูลอิสระที่ถูกเร่งมาจากปัจจัยต่างๆ มากมายโดยเฉพาะรังสียูวี ยิ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เซลล์ผิวเสื่อสภาพอีกด้วย ทำให้ผิวพรรณมีความยืดหยุ่น กระชับใสและมีความเรียบเนียน ต่อต้านการเกิดริ้วรอยก่อนวัน ดังนั้นการดูแลผิวเพื่อการชะลอริ้วรอย โดยทานคอลลาเจนยังเป็นอีกวิธีการหนึ่งในการเติม คอลลาเจนให้กับชั้นผิว คอลลาเจนช่วยเพิ่มควมแข็งแรงและยืดหยุ่นของคอลลาเจนที่ชั้นผิวหนัง ป้องกันฝ้า จุดด่างดำและ กระ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิต โดยเฉพาะหลอดเลือดเล็ก ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และยังช่วยยับยั้งการส้รางเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้น คอลลาเจนสามารถลดการเกิดรอยดำ รวมทั้งกระตุ้นการสร้างเซราไมด์ที่ชั้นผิวหนัง ป้องกันการสูญเสียที่ชั้นผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น ลดการระคายเคืองที่ผิวหนัง ทำให้ผิวดูมีสุขภาพดี กระจ่างใสขึ้น คอลลาเจนช่วยเพิ่มประสิทธภาพของข้อกระดูก ทำให้ลดอาหารปวดตามข้อได้ คอลลาเจนยังสามารถช่วยในเรื่องผม และเล็บให้แข็งแรงมากขึ้น…

4 ประโยชน์ของคอลลาเจนที่มีต่อผิว

4 ประโยชน์ของคอลลาเจนที่มีต่อผิว

4 ประโยชน์ของคอลลาเจนที่มีต่อผิว คอลลาเจนเป็นโปรตีนโครงสร้างในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ที่มีปริมาณมากที่สุดในร่างกาย ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในโครงสร้างของมนุษย์และสัตว์ เช่น ผิวหนัง กระดูก กระดูกอ่อน ข้อต่อ เส้นเอ็น หลอดเลือด ท่อน้ำเหลือง และกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ คอลลาเจนทำหน้าที่เป็นโครงร่างประสาน ซ่อมแซม ยึดเกาะ ค้ำยัน ให้ความยืดหยุ่นกับเนื้อเยื่อและผิวหนัง กระจายน้ำหนักและลดแรงเสียดทานในกระดูก โดยคอลลาเจนสร้างจากกรดอะมิโนที่ไม่จำเป็น แต่คอลลาเจนมีความสำคัญในโครงสร้างของร่างกาย และมวลกระดูก ประโยชน์ของคอลลาเจนที่มีต่อผิว 1 . คอลลาเจนช่วยทำให้หนังกำพร้าเก็บกัดกน้ำได้มากขึ้นทำให้ผิวหนังชื่นชื่นมากขึ้น มีการทดลองให้คนได้รับและไม่ได้รับคอลลาเจน 10 กรัม/วัน เป็นเวลา 2 เดือน ทำให้พบว่าความสามารถในการการเก็บน้ำของหนังกำพร้าเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนแรพที่ได้รับคอลลาเจน และสูงขึ้นเรื่อยๆ ในเดือนถัดไป ดังนั้น คอลลาเจนจึงช่วยทำให้หนังกำพร้าเก็บน้ำได้มากขึ้น ทำให้ผิวหนังชุ่มชื่นมากขึ้น 2. คอลลาเจนช่วยเพิ่มความแข็งแรงของชั้นผิวหนัง การทานคอลลาเจนทำให้ความหนาแน่นของเส้นใยคอลลาเจน และปริมาณ Fibroblast ที่ผิวหยังมากขึ้น ดังนั้น คอลลาเจนจึงช่วยเพิ่มความแข็งแรงของชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวหนังเต่งตึง 3. คอลลาเจนมีส่วนช่วยปกป้องผิวหนัง จากการถูกทำลายด้วยแสง UV(B) ได้ รังสี UVB…

ทำความรู้จักคอลลาเจน

ทำความรู้จักคอลลาเจน

ทำความรู้จักคอลลาเจน ความหมายของคอลลาเจน คอลลาเจน คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีรูปแบบเป็นสายยาว ที่มีหน้าที่แตกต่างจากสารโปรตีนโดยทั่วไปเช่นเดียวกับเอนไซม์ ในส่วนของเส้นใยคอลลาเจนเป็ยสายเกลียวที่มีหน่วยของโมเลกุลเกี่ยวพันกันจำนวนมาก โดยปกติผิวหนังของคนเราจะมีคอลลาเจนที่ประกอบไปด้วยโครงสร้างจำนวนมาก จึงมีแรงสปริงและยืดหยุ่นได้เป็นอย่างดีตามไปด้วย สำหรับคอลลาเจนนั้นไม่ได้มีประกอบอยู่แค่ผิวหนังเท่านั้น แต่ยังมีอยู่อวัยะภายในร่างกายอยู่มาก ซึ่งได้แก่ ผังผืด เอ็น เอ็นกล้ามเนื้อ กระดูกอ่อน และกระดูก ที่สำคัญคอลลาเจนที่เป็นส่วนประกอบหลักของชั้นผิวของคนเราที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เคราติน เคราติน ช่วยทำหน้าที่สร้างความแข็งแรงและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว เมื่อสารเคราตินในชั้นผิวของสาวๆ ลดลงจะทำให้เกิดริ้วรอยบนชั้นผิวหนัง นอกจากนี้เคราตินมีหน้าที่ในการสร้างความยืดหยุ่นให้ผนังของหลอดเลือ มีส่วนช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อใหม่   ประโยชน์ของคอลลาเจน ช่วยทำให้ผิวหนังกำพร้าเก็บกักน้ำได้มากขึ้นทำให้ผิวหนังชุ่มชื่นขึ้น ช่วยทำให้ผิวพรรณมีความยืดหยุ่น กระชับใสและเรียบเนียน ป้องกันและลดเลือนริ้วรอย กระ ฝ้า และจุดด่างดำ ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวพรรณขาด กระจ่างใสขึ้น ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิวหนัง ทำให้ผิวหนังเต่งตึงขึ้น มีส่วนช่วยปกป้องผิวหนัง จากการถูกทำลายด้วยแสง UV ได้ ช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอในร่างกายทำให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น ช่วยบำรุงข้อต่อ ลดรอยแผลเป็น และการบำรุงเส้นผม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของข้อกระดูกทำให้ลดอาหารปวดตามข้อได้ อาหารที่มีคอลลาเจน                 เนื้อปลาทะเล สาหร่ายทะเลรือสาหร่ายน้ำจืด น้ำมะพร้าว เนื้อไก่ เนื้อหมู ไข่ขาว…

ทำความสะอาดผิวหน้า

การทำความสะอาดผิวหน้า

การทำความสะอาดผิวหน้า คนไทยในปัจจุบันนี้เริ่มหันมาให้ความสนในการดูแลรักษาสุขภาพกันมากขึ้น และสิ่งที่สำคัญอีกเรื่องคือใบหน้าของคนเราที่จะบ่งบอกว่าผู้นั้นมีสุขภาพดีหรือไม่ ดูแก่ก่อนวัยอันควรหรือเปล่า ซึ่งทุกคนทำความสะอาดใบหน้ากันทุกวันอยู่แล้ว แต่เคยถามตัวเองบ้างหรือป่าวว่าสารทั้งหลายที่นำมาใช้ทำความสะอาดผิวหน้านั้นมีผลอย่างไรบ้างกับผิวหน้า และเมื่อพูดถึงการทำความสะอาดผิวหน้าคนส่วนใหญ่จะใช้น้ำและสบู่ในการล้างหน้า     การทำความสะอาดผิวหน้าด้วยน้ำ                 น้ำเป็นสารทำความสะอาดที่ง่ายที่สุด แต่น้ำไม่มีคุณสมบัติทำให้ผิวเปียกได้ดี เนื่องจากผิวหนังของคนเรามีสารเคอราตินอยู่ซึ่งช่วยป้องกันเปียกได้ ดังนั้นการทำความสะอาดผิวหน้าน้ำก็ต้องใช้เวลานาน กว่าจะชำระสิ่งสกปรกออกไปได้หมด ซึ่งในบางครั้งก็ต้องมีการใช้การขัดถูเข้ามาช่วย จึงมีการเติมสารบางอย่างที่ลงไปในน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพนการทำความสะอาดผิวให้ดีขึ้น เช่น แอลกอฮอล์ ซึ่งจะช่วยลดแรงตึงผิวระหว่างน้ำกับผิวหนังให้เปียกน้ำขึ้นและช่วยขจัดไขมันในบางส่วนได้ ซึ่งด้วยเหตุผลเหล่านี้จึงนิยมนำเอาแอลกอฮอร์ใส่ในเครื่องสำอางที่ใช้ในการทำความสะอาดผิว แต่ควรใช้ในปริมาณที่ต่ำเพื่อเลี่ยงการระคายเคืองต่อผิว โดยแอลกอฮอล์ที่นิยมใช้มีอยู่ 2 ชนิดคือ เอธิล แอลกอฮอร์ซึ่งจะช่วยให้ความสดชื่นได้มากกว่าและช่วยให้กลิ่นของน้ำมันหอมแทรกซึมเข้าสู่ผิวได้ดี ส่วนไอโซโพรพีล แอลกฮอล์จะช่วยลดแแรงตึงของน้ำได้ดีกว่า จึงสามารถใช้ในปริมาณที่น้อยกว่าได้   การทำความสะอาดผิวหน้าด้วยสบู่                 สบู่เป็นสารที่ทำความสะอาดที่เก่าแก่ที่สุด และเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ราคาถูกใช้สะดวก ส่วนใหญ่จะเป็นสารผสมของเกลือโซเดียมกับกรดไขมัน ถ้าเป็นสบู่เหลวก็จะใช้เกลือโปตัสเซียมกับกรดไขมัน   สบู่มีผลต่อกระทบต่อการชำระล้างผิว ทำให้เกิดความเป็นด่างที่ผิวหนัง 5 – 10 นาที ก็จะกลับสู่ปกติใน 30 นาที ซึ่งความเป็ด่างจะทำให้เกิดอันตราบต่อผิวได้ เมื่อสัมผัสนานๆ ก็จะเกิดความผิดปกติของโปรตีนในผิวหนังทำให้ความต้านทางของผิวลดลง ทำให้สูญเสียความชื้นของผิว ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดเชื้อแบคทีเรีย…

ชนิดและส่วนประกอบของสบู่่

สบู่ และส่วนประกอบของสบู่

สบู่ และส่วนประกอบของสบู่ ปัจจุบันสบู่มีบทบาทในชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างมาก และได้รับการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนมีการสังเคาะห์สารใหม่ๆ ขึ้นมาก เพื่อที่จะใช้เป็นสารชำระล้างทดแทนมากมาย ซึ่งสบู่เป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่ได้จากการนำเอาน้ำมันพืช หรือไขมันสัตว์กับน้ำด่างได้จากการนำเอามาแช่น้ำ ทำขึ้นเพื่อใช้ทำความสะอาดร่างกายและเสื้อผ้า ชนิดและส่วนประกอบของสบู่่ ชนิดของสบู่                 – สบู่ก้อน เป็นสบู่ที่ได้มาจากการทำปฏิกิริยาระหว่างกรดไขมันกับสารละลายโซเดียมโฮดรอกไซด์ เนื้อสบู่ที่ได้เป็นก้อนลักษณะทึบแสง เมื่อเวลาแห้งและเย็นมีโซดาไฟเป็นส่วนประกอบหลัก มีเกลือโพแทสเซียมของกรดไขมันใช้สำหรับภายนอกเท่านั้น ไม่ควรใช้สบู่ก้อนสระผม เพราะจะทำให้เส้นผมและหนังศรีษะกระด้าง – สบู่ชนิดอ่อน มีลักษณะคล้ายน้ำผึ้งหรือเยลลี่สรเหลืองใส ทำด้วยน้ำมันมะกอกและโซดา – สบู่เหลว มีส่วนผสมของเกลือโพแทสเซียมกับกรดไขมัน และอาจมีส่วนผสมของน้ำมันมะกอก เมล็ดถั่ว เมล็ดฝ้าย และสมุนไพรอื่นๆ – สบู่ไขมัน ซึ่งสบู่ตัวนี้มีการเติมสารอิมอลเลียนที่เป็นฟิล์มบาง ซึ่งเมื่อใช้แล้วจะติดอยู่บนผิว ทำให้ผิวลื่น และป้องกันการสูญเสียความชื้นจากผิวหนังซึ่งจะเหมาะกับคนที่มีผิวแห้ง – สบู่ใส หรือสบู่กลีเซอรีน เป็นสบู่ที่มีเนื้อสบู่ทำเป็นก้อนมีความแข็งเหมือนกับสบู่แข็ง แต่จะมีลักษณะใส ผิวมันเงา การที่สบู่มีลักษณะใสก็เนื่องมาจากส่วนประกอบจองเอทานอล กลีเซรีนและน้ำตาลทราย โดยทั่วไปนิยมผลิตมาจากส่วนผสมของน้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะกอก ไขมันวัว น้ำมันละหุ่ง น้ำมันเมล็ดทานตะวัน และยางสน – ซินเดท เป็นสบู่ที่มีส่วนผสมของสารที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวหนัง…