ต้องกินคอลลาเจนนานเท่าไหร่ถึงจะเห็นผล

ต้องกินคอลลาเจนนานเท่าไหร่ถึงจะเห็นผล ปัญหาที่ผู้คนเริ่มมีอายุมักพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นความหย่อนคล้อย มีริ้วรอย ไม่เต่งตึงเหมือนเก่า รวมถึงกระดูกและข้อต่อที่ไม่แข็งแรงเหมือนเดิมนั้นเป็นสัญญาณว่าร่างกายของเราผลิตคอลลาเจนได้น้อยลงนั่นเอง ซึ่งคอลลาเจนนั้นเป็นเส้นใยโปรตีนที่สำคัญต่อการสร้างผิวหนัง เอ็น ข้อต่อและกระดูก โดยทั่วไปแล้วร่างกายของเราสามารถสร้างคอลลาเจนขึ้นมาเองได้ แต่เมื่ออายุมากขึ้น อัตราการสร้างคอลลาเจนของเราจะลดลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อร่างกายไม่สามารถสร้างคอลลาเจนขึ้นมาทดแทนส่วนที่ถูกทำลายได้ จึงทำให้ผิวพรรณของเราแห้งและเหี่ยวย่น เช่นเดียวกับกระดูก เอ็นและข้อต่อที่เสื่อมสภาพลง ปัจจุบันการเติมคอลลาเจนให้กับร่างกายนั้นมีหลายวิธีเช่น ไม่ว่าจะเป็นการกินทั้งแบบผงชงดื่มหรือแบบเม็ด การฉีดเข้าไปในร่างกายโดยตรง หรือทาลงไปบนผิวในรูปแบบของสกินแคร์ต่าง ๆ อย่างไรก็ดี วิธีที่เป็นที่นิยมที่สุดและมีราคาที่ไม่สูงนักก็คือการกินนั่นเอง  เมื่อเป็นเช่นนั้นหลายคนก็อาจสงสัยว่า แล้วจะต้องทานคอลลาเจนในปริมาณเท่าไหร่ และทานนานแค่ไหนถึงจะเห็นผล วันนี้เรามีคำตอบสำหรับเรื่องนี้มาฝากกัน คอลลาเจนเพื่อดูแลผิว มีงานวิจัยรายงานว่า การกินคอลลาเจน 2.5 – 5 กรัมต่อวันต่อเนื่องเป็นเวลา 8 สัปดาห์ติดต่อกัน ช่วยลดความแห้งกร้าน และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวในกลุ่มผู้ทดลองหญิงวัย 35 – 55 ปี ผลการวิจัยนี้สอดคล้องกับการศึกษาผลลัพธ์จากการดื่มเครื่องดื่มที่มีคอลลาเจนและสารต้าอนุมูลอิสระอื่น ๆ ในกลุ่มผู้ทดลองหญิงวัย 45 – 64 ปี ซึ่งมีผลการศึกษาว่าช่วยทำให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้นและยืดหยุ่นขึ้น รวมถึงช่วยให้ริ้วรอยตื้นขึ้น 5 – 8% ในระยะเวลา…

Collagen ไม่ได้มีดีแค่ที่เห็น

Collagen ไม่ได้มีดีแค่ที่เห็น หากพูดถึงคอลลาเจน (Collagen) เชื่อได้เลยว่าคนส่วนใหญ่จะต้องนึกถึงเรื่องความกระจ่างใส ความอ่อนเยาว์ของผิวเป็นอย่างแรก เนื่องจากเห็นจากโฆษณาต่าง ๆ เกี่ยวกับคอลลาเจนที่จะเน้นไปทางดูแลและบำรุงผิวพรรณ อีกทั้งคอลลาเจนยังถูกนำไปเป็นหนึ่งในส่วนผสมของเครื่องสำอาง เครื่องดื่มต่าง ๆ อีกมากมาย แต่จริง ๆ แล้วคอลลาเจนนั้นไม่ได้มีดีแค่เรื่องผิวพรรณอย่างที่เห็นกัน แต่ยังซ่อนโยชน์สุดพิเศษเอาไว้อีกมากมาย โดยทาง Trendy จะพาทุกคนไปไขความลับของประโยชน์ต่าง ๆ ที่ซ่อนอยู่ในคอลลาเจนกัน ทำความรู้จักคอลลาเจน คอลลาเจน คือเส้นใยโปรตีนชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่คล้ายกาวคอยเกาะยึดส่วนต่าง ๆ ในร่างกายเป็นองค์ประกอบหลักของผิวหนัง ขน และเส้นผม ช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น คงความกระชับ เต่งตึง เรียบร้อย พบมากบริเวณกระดูกข้อต่อ กระดูกอ่อน รวมถึงเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกายของคนและสัตว์ เมื่อเราทานอาหารที่มีโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ปลา หรือผลิตภัณฑ์จากนมเข้าไป โปรตีนนั้นจะถูกย่อยสลายจนแตกตัว และก่อตัวขึ้นใหม่เป็นโปรตีนที่ช่วยในกระบวนการรักษาแผล ซ่อมแซมกล้ามเนื้อ เสริมสร้างความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง ซึ่งนั่นก็คือ คอลลาเจน  (Collagen) ทำไมคอลลาเจนถึงถูกพูดถึงในเรื่องของผิวพรรณ อย่างที่พูดไปข้างต้นว่าถ้าให้พูดถึงคอลลาเจน หลายคนก็จะนึกถึงเรื่องของผิวพรรณ เนื่องจากในร่างกายของคนเรานั้นประกอบไปด้วยคอลลาเจน โดยในช่วงอายุ…

คอลลาเจน จำเป็นต้องกินเพิ่มหรือไม่

คอลลาเจน จำเป็นต้องกินเพิ่มหรือไม่ ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่าง คอลลาเจน ได้หลายเป็นอาหารเสริมยอดนิยมในเรื่องของการต้านการเหี่ยวย่นของผิว ริ้วรอยแห่งวัย แก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ รวมทั้งช่วยบำรุงเส้นผมและเล็บในเงางามอีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องข้อกระดูกอีกด้วย แต่จริง ๆ แล้วในร่างกายของนั้นก็สามารถผลิตคอลลาเจนได้เองตามธรรมชาติ ทำให้เกิดความสงสัยว่าคอลลาเจนจำเป็นต้องกินเพิ่มหรือไม่ เราไปไขข้อสงสัยนี้กัน คอลลาเจน คืออะไร คอลลาเจน (Collagen) เป็นเส้นในโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ ไม่สามารถละลายน้ำได้และเป็นองค์ประกอบของส่วนประกอบต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น ผิว ผม หรือเล็บ เพราะฉะนั้นแล้วจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมคอลลาเจนถึงเป็นที่เลื่องลือในเรื่องของความงาม คอลลาเจนจะทำหน้าที่ช่วยยึดโครงสร้าง เพื่อความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของร่างกาย และยังสามารถช่วยในเรื่องของการบำรุงผิวพรรณได้อีกด้วย กล่าวคือ คอลลาเจนจะช่วยสร้างเครือข่ายเส้นใยของเซลล์ ซึ่งทำให้เซลล์ที่เพิ่งเกิดขึ้นมาใหม่เจริญเติบโตได้ นอกจากนี้ยังมีบทบาทในการทดแทนและฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสียไปให้กลับคืนมาเป็นปกติ นอกจากนี้คอลลาเจนยังทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันให้แก่อวัยวะที่บอบบางในร่างกาย เช่น ไต ได้อีกด้วย เราจำเป็นต้องกินคอลลาเจนเพิ่มหรือไม่ เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หลายคนคงทราบว่า คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่มีความสำคัญแก่ร่างกายอย่างมาก เนื่องจากเป็นองค์ประกอบของผม เล็บ กระดูกและผิวหนัง ซึ่งส่งผลให้ร่างกายมีความต้องการคอลลาเจนในปริมาณมาก แต่ร่างกายของเรานั้นก็สามารถสร้างคอลลาเจนขึ้นมาได้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายด้วยเช่นกัน เราจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรับคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายโดยการกินอาหารเสริมคอลลาเจนเพิ่ม แต่เมื่อเวลาผ่านไปเมื่ออายุเริ่มมากขึ้น ร่างกายก็จะเริ่มสร้างคอลลาเจนได้น้อยลง ส่งผลให้เกิดริ้วรอยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยแห่งวัย ผิวพรรณที่แห้งกร้าน…

อาหารเสริม

รวมตัวช่วยสร้างสวยสำหรับผู้หญิง

รวมตัวช่วยสร้างสวยสำหรับผู้หญิง ผู้หญิงกับความสวยนั้นเป็นของคู่กัน ไม่ว่าจะวัยไหน ๆ ก็ต่างตามหาวิธีที่ช่วยให้เรานั้นยังสวยอยู่ตลอดเวลา แต่รู้ใช่ไหมว่าความสวยวันหนึ่งก็ต้องเปลี่ยนแปลงตามวันและเวลา ดังนั้นผู้หญิงหลายคนจึงจะต้องมีตัวช่วยในการสร้างความสวย ซึ่งตัวช่วยที่ว่านั้นก็เป็นสิ่งใกล้ตัวที่เราอาจจะกินมันเข้าไปทุกวันโดยที่เรารู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม นั่นก็คือ สารอาหารหรือวิตามิน แต่ไม่ใช่สารอาหารหรือวิตามินทุกตัวจะสามารถช่วยในเรื่องของความสวยได้ เพราะแต่ละตัวนั้นมีประโยชน์ที่แตกต่างกัน เพื่อไม่ให้กินผิดตัว วันนี้เราได้รวบรวมตัวช่วยในการสร้างความสวยสำหรับผู้หญิงมาให้ดูกันว่าควรกินตัวไหนบ้าง โดยมีดังต่อไปนี้ คอลลาเจน คอลลาเจน เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นสายยาว ซึ่งทำหน้าที่แตกต่างจากสารโปรตีนทั่ว ๆ ไป  เช่นเดียวกับเอนไซม์ เส้นใยคอลลาเจนมีลักษณะเป็นสายเกลียวที่มีหน่วยโมเลกุลเกี่ยวพันกันมากมาย โดยปกติทั่วไปผิวหนังมีคอลลาเจนเป็นโครงสร้างอยู่มาก คอลลาเจน พบมากทั้งในพืชและในสัตว์ต่าง ๆ อย่างเช่น สัตว์จำพวกปลาทะเลน้ำลึก อะโวคาโด ไก่งวง ช็อกโกแลต มะกอก แครอต ถั่ว ผักใบเขียว และไข่ ทั้งนี้หากเราขาดคอลลาเจน จะทำให้เกิดริ้วรอยบนผิวหนัง ผิวหนังเหี่ยวย่น หย่อนคล้อย กระดูกอ่อนเสื่อมสภาพและเป็นโรคข้อเสื่อม แต่หากรับประทานมากเกินไป ก็อาจจะเกิดอาการแพ้ได้ ปริมาณที่แนะนำต่อวัน : ร่างกายสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้มากที่สุดเพียง 5,000 มิลลิกรัมต่อวันเท่านั้น ถึงจะบริโภคมากแค่ไหน ร่างกายก็ขับออกมาอยู่ดี วิตามินซี วิตามินซี นอกจากจะทำหน้าที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มต้านทานและป้องกันโรคหวัดแล้ว ยังช่วยเรื่องของความสวยความงามอีกด้วย…

ใครบ้างที่ไม่ควรทานคอลลาเจน

ใครบ้างที่ไม่ควรทานคอลลาเจน ตอนนี้อาหารเสริมที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากก็คงหนีไม่พ้น คอลลาเจนผง หรือคอลลาเจนเสริม ซึ่งเป็นอาหารเสริมที่จะช่วยให้ร่างกายนั้นได้รับคอลลาเจนในปริมาณที่เพียงพอ เพื่อช่วยบำรุงผิวพรรณให้ผิวพรรณกระชับ เต่งตึง เนียนนุ่มน่าสัมผัส ลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำ รวมไปถึงการดูแลกระดูกและข้อต่อต่าง ๆ ด้วยเหตุเหล่านั้นจึงทำให้มีผู้ที่ต้องการเสริมสร้างคอลลาเจนในร่างกายหันมาสนใจและรับประทานคอลลาเจนเสริมกันมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น ก็จะมีผู้บริโภคบางคนที่ไม่สามารถทานคอลลาเจนเสริมได้ ด้วยสาเหตุหลายประการ โดยในวันนี้เราจะพาคุณไปดูกันว่าใครบ้างที่ไม่ควรทานคอลลาเจนเสริม คอลลาเจนในร่างกายจะลดลงไปตอนอายุเท่าไหร่ ร่างกายของคนเรานั้นจะมีการผลิตคอลลาเจนน้อยลงตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น ในช่วงอายุ 20 ปีต้น ๆ ผิวหนังของคนเราจะประกอบด้วยคอลลาเจนประมาณ 75% ตั้งแต่อายุ 25 ปีขึ้น ร่างกายจะลดการสร้างคอลลาเจนลง 1.5% เมื่ออายุ 40 ปี กระบวนการสร้างคอลลาเจนจะช้าลง 30 % การเชื่อมต่อของเนื้อเยื่อในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายก็จะอ่อนแอลง ผิวหนังเหี่ยวย่น มีริ้วรอยขาดความยืดหยุ่น และบริเวณข้อต่อเริ่มไม่แข็งแรง ดังนั้นอายุที่ควรเริ่มทานคอลลาเจนก็คือ 25 ปีขึ้นไป ใครบ้างที่ทานคอลลาเจนไม่ได้ ผู้ที่อ่อนไหวต่อการบริโภคโปรตีนหรือมีประวัติแพ้โปรตีนมาก่อน ผู้ที่แพ้อาหารทะเล เพราะส่วนมากคอลลาเจนในปัจจุบันถูกสกัดมาจากปลา ผู้ป่วยที่เคยมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับไตและตับ เพราะอาจก่อให้เกิดความผิดปกติต่อระบบทางเดินอาหารได้ หากต้องการรับประทานควรปรึกษาแพทย์ก่อนเท่านั้น คอลลาเจนช่วยอะไรบ้าง ? คอลลาเจนนั้นมีหน้าที่สร้างความแข็งแรงและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ช่วยสร้างเนื้อเยื่อใหม่…

คอลลาเจน

คอลลาเจนกับคอลลาเจนเปปไทด์ต่างกันอย่างไร

คอลลาเจนกับคอลลาเจนเปปไทด์ต่างกันอย่างไร คอลลาเจน อาหารเสริมที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันที่ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็จะเจอ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบผงชงดื่ม แบบเม็ดหรือแม้แต่เป็นส่วนผสมในครีมหรืออาหารเสริมอื่น ๆ แต่หลายคนก็เคยอาจจะได้ยินคำว่าคอลลาเจน หรือ คอลลาเจนเปปไทด์ ทำให้ผู้บริโภคหลายคนเกิดความสงสัยว่าทั้งสองอย่างนี้เหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไร ดังนั้นเราไปดูกันดีกว่าสองอย่างนี้เหมือนหรือต่างกันแน่ คอลลาเจน (Collagen) คอลลาเจน เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้ทั่วร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นตามบริเวณข้อต่อ กล้ามเนื้อ กระดูกอ่อน เซลล์ต่าง ๆ หลอดเลือด หรือแม้แต่ในเนื้อเยื่อในอวัยวะ โดยคอลลาเจนจะทำหน้าที่ในการประสานเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของผิวหนังเข้าด้วยกัน ซึ่งเมื่ออายุของคนเรามากขึ้นคอลลาเจนในร่างกายจะเริ่มมีการผลิตคอลลาเจนในร่างกายลดลงไปเรื่อย ๆ ทำให้เกิดปัญหาตามผิวพรรณอย่าง ริ้วรอยแห่งวัย จุดด่างดำที่ลดเลือนช้า ผิวหนังที่หย่อนคล้อย เป็นต้น คอลลาเจนเปปไทด์ (Collagen Peptide) คอลลาเจนเปปไทด์ เป็นคอลลาเจนที่ผ่านการย่อยด้วยเอนไซม์จนมีโมเลกุลขนาดเล็ก ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าคอลลาเจนทั่วไปถึง 1,000 เท่า ส่งผลให้ร่างกายสามารถดูดซึมและนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่ารูปแบบอื่น ๆ ดังนั้นคอลลาเจนเปปไทด์เป็นนวัตกรรมที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ร่างกายดูดซึมคอลลาเจนได้ดีกว่าเดิม การทำงานของคอลลาเจนเปปไทด์ คอลลาเจนเปปไทด์นั้นจะถูกย่อยในลำไส้เล็กและเกิดกรดอะมิโนอิสระ ซึ่งเปปไทด์จะถูกดูดซึมผ่านเยื่อลำไล้เล็กเข้าสู่กระแสเลือดและกระจายไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายโดยเฉพาะในชั้นผิวหนังชั้นใน กระดูก กล้ามเนื้อตามลำดับ ซึ่งคอลลาเจนเปปไทด์และกรดอะมิโนอิสระจะสร้างส่วนประกอบที่ใช้สร้างเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสตินให้กับร่างกาย และกระตุ้นการเพิ่มจำนวนไฟโบราลาสต์ ซึ่งถือว่าเป็นกุญแจสำคัญในการสังเคราะห์คอลลาเจน ความแตกต่างของคอลลาเจนกับคอลลาเจนเปปไทด์…

ช่วงอายุไหนมีการสูญเสียคอลลาเจนอย่างไรบ้าง

ช่วงอายุไหนมีการสูญเสียคอลลาเจนอย่างไรบ้าง เป็นเรื่องปกติของแต่ละช่วงวัยของคนเรา ที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะด้านใดด้านหนึ่งเสมอ เช่นเมื่ออายุมากขึ้นร่างกายของเราก็จะไม่แข็งแรงเหมือนตอนเป็นวัยรุ่นหรือวัยหนุ่มสาว ส่งผลให้สิ่งต่าง ๆ ภายในร่างกายเสื่อมลง รวมไปถึงคอลลาเจน คอลลาเจนนั้นมีอยู่ในร่างกายเป็นจำนวนมาก แต่เหมือนคนเราอายุเริ่มเข้า 25 ปี ร่างกายจะทำการผผลิตคอลลาเจนได้น้อย และจะน้อยลงเรื่อย ๆ สวนกับอายุที่มากขึ้น ทำให้ผิวพรรณของร่างกายที่มีคอลลาเจนล่อเลี้ยงอยู่นั้นมีน้อยลง ทำให้ผิวพรรณเกิดความหย่อนคล้อย เริ่มปรากฏริ้วรอยแห่งวัยต่าง ๆ ดังนั้นในวันนี้เราจะมาดูกันว่าในแต่ละช่วงอายุนั้นเมื่อขาดคอลลาเจนจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง คอลลาเจนคืออะไร ? คอลลาเจน คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในร่างกายคนเราตามธรรมชาติ ประกอบไปด้วยสาระสำคัญ 2 ชนิด คือ Proteoglycan และ Glycosaminoglycans ซึ่งเป็นโปรตีนที่เป็นโครงสร้างหลักของผิว เส้นผม เล็บ กระดูก ข้อต่อ ตลอดจนผนังหลอดเลือด ทำหน้าที่เป็นตัวประสานเนื้อเยื่อของผิวหนัง และเชื่อมต่ออวัยวะทุกสส่วนของร่างกายไว้ด้วยกัน ปัจจัยที่ทำให้คอลลาเจนเสื่อมสลาย การเกิดอนุมูลอิสระ อันเนื่องมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตทำร้ายผิวเช่น การสูบบุหรี่ แสงแดด การได้รับมลพิษ อายุที่เพิ่มมากขึ้น สารปนเปื้อนที่อยู่ในอาหารา การเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมน ช่วงที่อายุเริ่มสูญเสียคอลลาเจน อายุ 25 -30 ปี…

ผิวสวยใส เปล่งปลั่งได้ง่ายกับอาหารบำรุงผิว

ผิวสวยใส เปล่งปลั่งได้ง่ายกับอาหารบำรุงผิว ผิวเปล่งปลั่ง สดใส ดูสุขภาพดีนั้น ไม่ว่าใครก็อยากมีกันทั้งนั้น ซึ่งผิวที่ดูสวยสุขภาพดีนั้นคือผิวที่สวยมากจากภายใน ด้วยการนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ที่ขาดไม่ได้นั้นก็คือการทานอาหารบำรุงผิว ทั้งอาหารธรรมดาหรือแม้แต่อาหารเสริมบำรุงผิว โดยอาหารเหล่านั้นต่างมีส่วนช่วยทั้งบำรุงผิวพรรณ ชะลอความแก่ ลดสิวและริ้วรอย ทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งขึ้นอย่างธรรมชาติ โดยอาหารบำรุงผิวมีดังต่อไปนี้ ปลาทะเล ปลาทะเลที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง ที่มีอยู่ในปลาแซลมอน ปลาแมคเคอรอล ปลาซาดีนปลาทูน่า ซึ่งคอลลาเจนในปลาเหล่านี้จำเป็นต่อผิวพรรณอย่างมาก เพราะจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และลดการอักเสบ แถมยังอุดมไปด้วยวิตามินอี สารต้านอนุมูลอิสระ และแร่ธาตุอย่างสังกะสีที่ช่วยกำจัดสิว และอาการระคายเคือง บำรุงผิวให้เต่งตึง ดูสดใสและมีออร่าจากภายใน โดยปลาทะเลนั้นนอกจากจะรับประทานกันทั่วไปแล้ว คอลลาเจนผง ที่จำหน่ายกันตามท้องตลาดนั้นส่วนใหญ่ก็มักสกัดมาจากปลาทะเลด้วยเช่นกัน ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ อาหารเสริมบำรุงผิวส่วนใหญ่นั้นมักจะมีส่วนผสมมาจากผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ไม่ว่าจะเป็นแบล็กเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ และสตรอว์เบอร์รี่ ต่างก็อุดมไปด้วยวิตามินซี ช่วยบรรเทาไข้หวัด และสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถช่วยลดการเสื่อมของเซลล์ผิว และปกป้องผิวจากรังสี UV รวมถึงช่วยกระตุ้นการเกิดเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวพรรณดูขาว ใส เปล่งปลั่ง ดูอ่อนกว่าวัย และยังช่วยลดปัญหาการเกิดสิว ริ้วรอย ฝ้า…

การฉีดคอลลาเจนเสี่ยงอันตรายได้

การฉีดคอลลาเจนเสี่ยงอันตรายได้ คอลลาเจน อาหารเสริมที่ช่วยบำรุงผิวพรรณที่ผู้บริโภคหลายคนนิยมซื้อรับประทานในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจนมาถึงปัจจุบันก็ยังมีแบรนด์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาเรื่อย ๆ เนื่องด้วยเป็นอาหารเสริมที่อยู่ในรูปแบบเม็ดหรือผงชงดื่ม ทำให้สามารถรับประทานได้ง่ายและสะดวก โดยตัวคอลลาเจนเสริมนั้นจะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในร่างกาย ทำให้ผิวพรรณกลับมากระชับ เต่งตึง ฟื้นฟูผิวพรรณ ลดเลือนริ้วรอย รอยดำ รอยแดงต่าง ๆ จางลง ให้ผิวพรรณกระจ่างใส ซึ่งนอกเหนือจากการทานคอลลาเจนแบบผงชงดื่มและแบบเม็ดแล้ว ยังมีอีกวิธีที่หลายคนนิยมนำคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายก็คือ การฉีดคอลลาเจน แต่ที่จริงแล้วการฉีดคอลลาเจนนั้นทีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายได้ ไม่เคยได้รับการอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนตำรับยาแต่อย่างใด และไม่ได้การรับรองความปลอดภัยในการนำไปใช้ โดยอันตรายที่เกิดขึ้นจากการฉีดคอลลาเจนมีดังต่อไปนี้ คอลลาเจนคืออะไร คอลลาเจนคือ โปรตีนสายาวชนิดหนึ่งซึ่งเป็นโปรตีนธรรมชาติที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของผิวหนัง โดยทำหน้าที่ยึดเกาะเซลล์ผิวหนัง เอ็น ข้อต่อ พังผืดและกล้ามเนื้อตลอดจนผนังหลอดเลือดให้ติดแน่นสนิท มีผลให้ผิวหนังแลดูเต่งตึง เพราะคอลลาเจนทำหน้าที่เชื่อมเซลล์ในร่างกายเข้าด้วยกัน โดยเซลล์ผิวหนังในร่างกายจะมีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบถึง 75% ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการทำให้ผิวดูชุ่มชื้น นุ่มนวล เต่งตึง กระชับ ไม่เหี่ยวย่น ไม่มีริ้วรอยและรอยตีนกา อีกทั้งยังช่วยเติมเต็มผิวที่หย่อนคล้อย ให้กลับมาเรียบตึง แต่เมื่อคนเราเริ่มมีอายุมากขึ้น การสร้างคอลลาเจนในร่างกายก็จะเริ่มลดลงเรื่อย ๆ ตามอายุที่เพิ่มขึ้น และปัจจัยอื่น ๆ ก็สามารถทำให้ร่างกายสูญเสียคอลลาเจนในร่างกายได้เช่นกัน อาทิ แสงแดด การพักผ่อนไม่เพียงพอ สูบบุหรี่…

การทำงานของคอลลาเจนเปปไทด์

การทำงานของคอลลาเจนเปปไทด์ คอลลาเจน เป็นอาหารเสริมที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะคอลลาเจนเปปไทด์ที่มีวางขายกันอย่างแพร่หลายในท้องตลาด ทำให้ผู้บริโภคหลายคนแต่พากันหาซื้อมารับประทาน เพื่อให้ร่างกายมีปริมาณคอลลาเจนที่เพียงพอ แต่ก็มีผู้บริโภคหลายคนอาจจะมีข้อสงสัยหรือคิดว่าเมื่อทานคอลลาเจนเปปไทด์เข้าไปนั้น มันจะเข้าไปทำงานอย่างไรในร่างกายของเรา วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจในเรื่องนี้กัน คอลลาเจนเปปไทด์คืออะไร คอลลาเจนเปปไทด์ (Collagen Peptide) คือคอลลาเจนที่ได้ผ่านการย่อยด้วยกรดจนได้คอลลาเจนที่มีอนุภาคเล็กที่สุด ซึ่งถ้าหากเป็นสารอาหารที่มีอนุภาคขนาดใหญ่ ก็จะทำให้ร่างกายนั้นไม่สามารถดูดซึมไปใช้ได้ทั้งหมด ดังนั้นคอลลาเจนที่ยังไม่ได้ผ่านกระบวนการการย่อยด้วยกรดนั้น จะทำให้มีอนุภาคที่ใหญ่ ส่งผลให้ร่างกายนั้นไม่สามารถดูดซึมเอาไปใช้ได้ในปริมาณที่ต้องการ ดังนั้นคอลลาเจนเปปไทด์จะมีอนุภาคเล็กกว่าคอลลาเจนธรรมดา ร่างกายจึงสามารถดูดซึมนำไปใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งคอลลาเจนเปปไทด์ที่ถูกสกัดมาจากวัว หมูและปลาทะเลน้ำลึกนั้น เรียกได้ว่าเป็นคอลลาเจนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดนั่นเอง คอลลาเจนเปปไทด์มีการทำงานอย่างไร เมื่อร่างกายของเราได้รับคอลลาเจนเปปไทด์เข้าไปแล้วนั้น คอลลาเจนเปปไทด์จะถูกย่อยในลำไส้เล็กจนเกิดเป็นไดเปปไทด์และไตรเปปไทด์หรือกรดอะมิโน ซึ่งจะทำให้เปปไทด์นั้นดูดซึมผ่านบุบลำไส้ได้ง่าย และเข้าสู่กระแสเลือด จากนั้นจะกระจายไปตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายโดยเฉพาะผิวหนังชั้นใน ข้อต่อกระดูก และกล้ามเนื้อ ประโยชน์ของคอลลาเจนเปปไทด์ ประโยชน์สำหรับผิวพรรณ คอลลาเจนเปปไทด์จะช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่นอยู่เสมอ ช่วยให้ผิวพรรณกระชับ เปล่งปลั่ง เนียนนุ่ม ดูอ่อนกว่าวัย ช่วยลดฝ้า กระให้จางลง ปกป้องรังสียูวีจากแสงแดดที่ทำร้ายผิว ประโยชน์สำหรับผมและเล็บ คอลลาเจนเปปไทด์ จะเข้าไปบำรุงสุขภาพผม เล็บ และสายตา โดยเพิ่มความแข็งแรงให้เล็บที่ผิดปกติ เพิ่มความหนาของเส้นผม ลดการหลุดร่วง และเพิ่มความแข็งแรงให้เส้นผม ประโยชน์สำหรับกระดูก คอลลาเจนเปปไทด์จะเข้าไปเสริมสร้างคอลลาเจนบริเวณข้อต่อต่าง…