ต้องกินคอลลาเจนนานเท่าไหร่ถึงจะเห็นผล

ต้องกินคอลลาเจนนานเท่าไหร่ถึงจะเห็นผล ปัญหาที่ผู้คนเริ่มมีอายุมักพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นความหย่อนคล้อย มีริ้วรอย ไม่เต่งตึงเหมือนเก่า รวมถึงกระดูกและข้อต่อที่ไม่แข็งแรงเหมือนเดิมนั้นเป็นสัญญาณว่าร่างกายของเราผลิตคอลลาเจนได้น้อยลงนั่นเอง ซึ่งคอลลาเจนนั้นเป็นเส้นใยโปรตีนที่สำคัญต่อการสร้างผิวหนัง เอ็น ข้อต่อและกระดูก โดยทั่วไปแล้วร่างกายของเราสามารถสร้างคอลลาเจนขึ้นมาเองได้ แต่เมื่ออายุมากขึ้น อัตราการสร้างคอลลาเจนของเราจะลดลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อร่างกายไม่สามารถสร้างคอลลาเจนขึ้นมาทดแทนส่วนที่ถูกทำลายได้ จึงทำให้ผิวพรรณของเราแห้งและเหี่ยวย่น เช่นเดียวกับกระดูก เอ็นและข้อต่อที่เสื่อมสภาพลง ปัจจุบันการเติมคอลลาเจนให้กับร่างกายนั้นมีหลายวิธีเช่น ไม่ว่าจะเป็นการกินทั้งแบบผงชงดื่มหรือแบบเม็ด การฉีดเข้าไปในร่างกายโดยตรง หรือทาลงไปบนผิวในรูปแบบของสกินแคร์ต่าง ๆ อย่างไรก็ดี วิธีที่เป็นที่นิยมที่สุดและมีราคาที่ไม่สูงนักก็คือการกินนั่นเอง  เมื่อเป็นเช่นนั้นหลายคนก็อาจสงสัยว่า แล้วจะต้องทานคอลลาเจนในปริมาณเท่าไหร่ และทานนานแค่ไหนถึงจะเห็นผล วันนี้เรามีคำตอบสำหรับเรื่องนี้มาฝากกัน คอลลาเจนเพื่อดูแลผิว มีงานวิจัยรายงานว่า การกินคอลลาเจน 2.5 – 5 กรัมต่อวันต่อเนื่องเป็นเวลา 8 สัปดาห์ติดต่อกัน ช่วยลดความแห้งกร้าน และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวในกลุ่มผู้ทดลองหญิงวัย 35 – 55 ปี ผลการวิจัยนี้สอดคล้องกับการศึกษาผลลัพธ์จากการดื่มเครื่องดื่มที่มีคอลลาเจนและสารต้าอนุมูลอิสระอื่น ๆ ในกลุ่มผู้ทดลองหญิงวัย 45 – 64 ปี ซึ่งมีผลการศึกษาว่าช่วยทำให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้นและยืดหยุ่นขึ้น รวมถึงช่วยให้ริ้วรอยตื้นขึ้น 5 – 8% ในระยะเวลา…

คอลลาเจน จำเป็นต้องกินเพิ่มหรือไม่

คอลลาเจน จำเป็นต้องกินเพิ่มหรือไม่ ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่าง คอลลาเจน ได้หลายเป็นอาหารเสริมยอดนิยมในเรื่องของการต้านการเหี่ยวย่นของผิว ริ้วรอยแห่งวัย แก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ รวมทั้งช่วยบำรุงเส้นผมและเล็บในเงางามอีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องข้อกระดูกอีกด้วย แต่จริง ๆ แล้วในร่างกายของนั้นก็สามารถผลิตคอลลาเจนได้เองตามธรรมชาติ ทำให้เกิดความสงสัยว่าคอลลาเจนจำเป็นต้องกินเพิ่มหรือไม่ เราไปไขข้อสงสัยนี้กัน คอลลาเจน คืออะไร คอลลาเจน (Collagen) เป็นเส้นในโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ ไม่สามารถละลายน้ำได้และเป็นองค์ประกอบของส่วนประกอบต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น ผิว ผม หรือเล็บ เพราะฉะนั้นแล้วจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมคอลลาเจนถึงเป็นที่เลื่องลือในเรื่องของความงาม คอลลาเจนจะทำหน้าที่ช่วยยึดโครงสร้าง เพื่อความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของร่างกาย และยังสามารถช่วยในเรื่องของการบำรุงผิวพรรณได้อีกด้วย กล่าวคือ คอลลาเจนจะช่วยสร้างเครือข่ายเส้นใยของเซลล์ ซึ่งทำให้เซลล์ที่เพิ่งเกิดขึ้นมาใหม่เจริญเติบโตได้ นอกจากนี้ยังมีบทบาทในการทดแทนและฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสียไปให้กลับคืนมาเป็นปกติ นอกจากนี้คอลลาเจนยังทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันให้แก่อวัยวะที่บอบบางในร่างกาย เช่น ไต ได้อีกด้วย เราจำเป็นต้องกินคอลลาเจนเพิ่มหรือไม่ เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หลายคนคงทราบว่า คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่มีความสำคัญแก่ร่างกายอย่างมาก เนื่องจากเป็นองค์ประกอบของผม เล็บ กระดูกและผิวหนัง ซึ่งส่งผลให้ร่างกายมีความต้องการคอลลาเจนในปริมาณมาก แต่ร่างกายของเรานั้นก็สามารถสร้างคอลลาเจนขึ้นมาได้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายด้วยเช่นกัน เราจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรับคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายโดยการกินอาหารเสริมคอลลาเจนเพิ่ม แต่เมื่อเวลาผ่านไปเมื่ออายุเริ่มมากขึ้น ร่างกายก็จะเริ่มสร้างคอลลาเจนได้น้อยลง ส่งผลให้เกิดริ้วรอยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยแห่งวัย ผิวพรรณที่แห้งกร้าน…

ใครบ้างที่ไม่ควรทานคอลลาเจน

ใครบ้างที่ไม่ควรทานคอลลาเจน ตอนนี้อาหารเสริมที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากก็คงหนีไม่พ้น คอลลาเจนผง หรือคอลลาเจนเสริม ซึ่งเป็นอาหารเสริมที่จะช่วยให้ร่างกายนั้นได้รับคอลลาเจนในปริมาณที่เพียงพอ เพื่อช่วยบำรุงผิวพรรณให้ผิวพรรณกระชับ เต่งตึง เนียนนุ่มน่าสัมผัส ลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำ รวมไปถึงการดูแลกระดูกและข้อต่อต่าง ๆ ด้วยเหตุเหล่านั้นจึงทำให้มีผู้ที่ต้องการเสริมสร้างคอลลาเจนในร่างกายหันมาสนใจและรับประทานคอลลาเจนเสริมกันมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น ก็จะมีผู้บริโภคบางคนที่ไม่สามารถทานคอลลาเจนเสริมได้ ด้วยสาเหตุหลายประการ โดยในวันนี้เราจะพาคุณไปดูกันว่าใครบ้างที่ไม่ควรทานคอลลาเจนเสริม คอลลาเจนในร่างกายจะลดลงไปตอนอายุเท่าไหร่ ร่างกายของคนเรานั้นจะมีการผลิตคอลลาเจนน้อยลงตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น ในช่วงอายุ 20 ปีต้น ๆ ผิวหนังของคนเราจะประกอบด้วยคอลลาเจนประมาณ 75% ตั้งแต่อายุ 25 ปีขึ้น ร่างกายจะลดการสร้างคอลลาเจนลง 1.5% เมื่ออายุ 40 ปี กระบวนการสร้างคอลลาเจนจะช้าลง 30 % การเชื่อมต่อของเนื้อเยื่อในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายก็จะอ่อนแอลง ผิวหนังเหี่ยวย่น มีริ้วรอยขาดความยืดหยุ่น และบริเวณข้อต่อเริ่มไม่แข็งแรง ดังนั้นอายุที่ควรเริ่มทานคอลลาเจนก็คือ 25 ปีขึ้นไป ใครบ้างที่ทานคอลลาเจนไม่ได้ ผู้ที่อ่อนไหวต่อการบริโภคโปรตีนหรือมีประวัติแพ้โปรตีนมาก่อน ผู้ที่แพ้อาหารทะเล เพราะส่วนมากคอลลาเจนในปัจจุบันถูกสกัดมาจากปลา ผู้ป่วยที่เคยมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับไตและตับ เพราะอาจก่อให้เกิดความผิดปกติต่อระบบทางเดินอาหารได้ หากต้องการรับประทานควรปรึกษาแพทย์ก่อนเท่านั้น คอลลาเจนช่วยอะไรบ้าง ? คอลลาเจนนั้นมีหน้าที่สร้างความแข็งแรงและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ช่วยสร้างเนื้อเยื่อใหม่…

การฉีดคอลลาเจนเสี่ยงอันตรายได้

การฉีดคอลลาเจนเสี่ยงอันตรายได้ คอลลาเจน อาหารเสริมที่ช่วยบำรุงผิวพรรณที่ผู้บริโภคหลายคนนิยมซื้อรับประทานในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจนมาถึงปัจจุบันก็ยังมีแบรนด์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาเรื่อย ๆ เนื่องด้วยเป็นอาหารเสริมที่อยู่ในรูปแบบเม็ดหรือผงชงดื่ม ทำให้สามารถรับประทานได้ง่ายและสะดวก โดยตัวคอลลาเจนเสริมนั้นจะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในร่างกาย ทำให้ผิวพรรณกลับมากระชับ เต่งตึง ฟื้นฟูผิวพรรณ ลดเลือนริ้วรอย รอยดำ รอยแดงต่าง ๆ จางลง ให้ผิวพรรณกระจ่างใส ซึ่งนอกเหนือจากการทานคอลลาเจนแบบผงชงดื่มและแบบเม็ดแล้ว ยังมีอีกวิธีที่หลายคนนิยมนำคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายก็คือ การฉีดคอลลาเจน แต่ที่จริงแล้วการฉีดคอลลาเจนนั้นทีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายได้ ไม่เคยได้รับการอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนตำรับยาแต่อย่างใด และไม่ได้การรับรองความปลอดภัยในการนำไปใช้ โดยอันตรายที่เกิดขึ้นจากการฉีดคอลลาเจนมีดังต่อไปนี้ คอลลาเจนคืออะไร คอลลาเจนคือ โปรตีนสายาวชนิดหนึ่งซึ่งเป็นโปรตีนธรรมชาติที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของผิวหนัง โดยทำหน้าที่ยึดเกาะเซลล์ผิวหนัง เอ็น ข้อต่อ พังผืดและกล้ามเนื้อตลอดจนผนังหลอดเลือดให้ติดแน่นสนิท มีผลให้ผิวหนังแลดูเต่งตึง เพราะคอลลาเจนทำหน้าที่เชื่อมเซลล์ในร่างกายเข้าด้วยกัน โดยเซลล์ผิวหนังในร่างกายจะมีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบถึง 75% ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการทำให้ผิวดูชุ่มชื้น นุ่มนวล เต่งตึง กระชับ ไม่เหี่ยวย่น ไม่มีริ้วรอยและรอยตีนกา อีกทั้งยังช่วยเติมเต็มผิวที่หย่อนคล้อย ให้กลับมาเรียบตึง แต่เมื่อคนเราเริ่มมีอายุมากขึ้น การสร้างคอลลาเจนในร่างกายก็จะเริ่มลดลงเรื่อย ๆ ตามอายุที่เพิ่มขึ้น และปัจจัยอื่น ๆ ก็สามารถทำให้ร่างกายสูญเสียคอลลาเจนในร่างกายได้เช่นกัน อาทิ แสงแดด การพักผ่อนไม่เพียงพอ สูบบุหรี่…

การทำงานของคอลลาเจนเปปไทด์

การทำงานของคอลลาเจนเปปไทด์ คอลลาเจน เป็นอาหารเสริมที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะคอลลาเจนเปปไทด์ที่มีวางขายกันอย่างแพร่หลายในท้องตลาด ทำให้ผู้บริโภคหลายคนแต่พากันหาซื้อมารับประทาน เพื่อให้ร่างกายมีปริมาณคอลลาเจนที่เพียงพอ แต่ก็มีผู้บริโภคหลายคนอาจจะมีข้อสงสัยหรือคิดว่าเมื่อทานคอลลาเจนเปปไทด์เข้าไปนั้น มันจะเข้าไปทำงานอย่างไรในร่างกายของเรา วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจในเรื่องนี้กัน คอลลาเจนเปปไทด์คืออะไร คอลลาเจนเปปไทด์ (Collagen Peptide) คือคอลลาเจนที่ได้ผ่านการย่อยด้วยกรดจนได้คอลลาเจนที่มีอนุภาคเล็กที่สุด ซึ่งถ้าหากเป็นสารอาหารที่มีอนุภาคขนาดใหญ่ ก็จะทำให้ร่างกายนั้นไม่สามารถดูดซึมไปใช้ได้ทั้งหมด ดังนั้นคอลลาเจนที่ยังไม่ได้ผ่านกระบวนการการย่อยด้วยกรดนั้น จะทำให้มีอนุภาคที่ใหญ่ ส่งผลให้ร่างกายนั้นไม่สามารถดูดซึมเอาไปใช้ได้ในปริมาณที่ต้องการ ดังนั้นคอลลาเจนเปปไทด์จะมีอนุภาคเล็กกว่าคอลลาเจนธรรมดา ร่างกายจึงสามารถดูดซึมนำไปใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งคอลลาเจนเปปไทด์ที่ถูกสกัดมาจากวัว หมูและปลาทะเลน้ำลึกนั้น เรียกได้ว่าเป็นคอลลาเจนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดนั่นเอง คอลลาเจนเปปไทด์มีการทำงานอย่างไร เมื่อร่างกายของเราได้รับคอลลาเจนเปปไทด์เข้าไปแล้วนั้น คอลลาเจนเปปไทด์จะถูกย่อยในลำไส้เล็กจนเกิดเป็นไดเปปไทด์และไตรเปปไทด์หรือกรดอะมิโน ซึ่งจะทำให้เปปไทด์นั้นดูดซึมผ่านบุบลำไส้ได้ง่าย และเข้าสู่กระแสเลือด จากนั้นจะกระจายไปตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายโดยเฉพาะผิวหนังชั้นใน ข้อต่อกระดูก และกล้ามเนื้อ ประโยชน์ของคอลลาเจนเปปไทด์ ประโยชน์สำหรับผิวพรรณ คอลลาเจนเปปไทด์จะช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่นอยู่เสมอ ช่วยให้ผิวพรรณกระชับ เปล่งปลั่ง เนียนนุ่ม ดูอ่อนกว่าวัย ช่วยลดฝ้า กระให้จางลง ปกป้องรังสียูวีจากแสงแดดที่ทำร้ายผิว ประโยชน์สำหรับผมและเล็บ คอลลาเจนเปปไทด์ จะเข้าไปบำรุงสุขภาพผม เล็บ และสายตา โดยเพิ่มความแข็งแรงให้เล็บที่ผิดปกติ เพิ่มความหนาของเส้นผม ลดการหลุดร่วง และเพิ่มความแข็งแรงให้เส้นผม ประโยชน์สำหรับกระดูก คอลลาเจนเปปไทด์จะเข้าไปเสริมสร้างคอลลาเจนบริเวณข้อต่อต่าง…

คอลลาเจนผง

คอลลาเจนบำรุงข้อเข่าเสื่อม

คอลลาเจนบำรุงข้อเข่าเสื่อม เมื่อคนเราอายุมากขึ้น ก็จะเริ่มมีปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นผิวพรรณที่เริ่มเหี่ยวย่น หย่อนคล้อย ริ้วรอยต่าง ๆ ผิวที่ดูแห้งกร้าน รวมไปถึงบริเวณกระดูกข้อเข่าที่เสื่อมลง มีอาการเจ็บปวดบริเวณข้อต่อ อาการเหล่านี้เกิดจากการขาดคอลลาเจน เพราะปกติคนเราจะมีคอลลาเจนอยู่ในร่างกายจำนวนมาก แต่เมื่ออายุเรามากขึ้นคอลลาเจนในร่างกายจะลดลงไปเรื่อย ๆ ดังนั้นเราจึงจะต้องเติมคอลลาเจนในร่างกายอยู่อย่างสม่ำเสมอ คอลลาเจน คืออะไร คอลลาเจน (Collagen) คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้ทั่วร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นตามบริเวณข้อต่อ กล้ามเนื้อ กระดูกอ่อน เซลล์ต่าง ๆ หลอดเลือด หรือแม้แต่ในเนื้อเยื่อในอวัยวะ โดยคอลลาเจนจะทำหน้าที่ในการประสานเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของผิวหนังเข้าด้วยกัน ซึ่งเมื่ออายุของคนเรามากขึ้นคอลลาเจนในร่างกายจะเริ่มมีการผลิตคอลลาเจนในร่างกายลดลงไปเรื่อย ๆ ทำให้เกิดปัญหาตามผิวพรรณอย่าง ริ้วรอยแห่งวัย จุดด่างดำที่ลดเลือนช้า ผิวหนังที่หย่อนคล้อย เป็นต้น โดยคอลลาเจนชนิดที่พบได้ในกระดูกอ่อนและหมอนรองกระดูกสันหลังนั้น เป็นชนิดที่เรียกว่าคอลลาเจน Type II โดยทำหน้าที่หน้าที่รองรับน้ำหนัก ลดแรงกระแทก รวมไปถึงความแข็งแรงในขณะที่มีการเคลื่อนไหวต่าง ๆ เมื่อคอลลาเจนเริ่มมีการเสื่อมลงตามวัย และประกอบกับพฤติกรรมที่ทำร้ายข้อต่อต่าง ๆ ทำให้เกิดปัญหากับกระดูกอ่อนได้แก่ โรคข้อเสื่อมเป็นต้น โรคข้อเสื่อมมีอาการอย่างไร อาการของโรคข้อเสื่อม…

ความแตกต่างของคอลลาเจนผงพาวเดอร์กับแกรนูล

ความแตกต่างของคอลลาเจนผงพาวเดอร์กับแกรนูล คอลลาเจนผง เป็นอาหารเสริมที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ที่ถึงแม้ว่าคอลลาเจนเสริมจะมีหลายรูปแบบ แต่รูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ รูปแบบผง เพราะสามารถรับประทานได้ง่าย พกพาสะดวก ทานได้ทุกที่ทุกเวลา แต่มีเรื่องเกี่ยวกับคอลลาเจนที่ผู้บริโภคหลายคนไม่รู้ เพราะเมื่อเวลาซื้อมักจะดูว่าเป็นคอลลาเจนไทป์อะไรเท่านั้น ซึ่งจริง ๆ แล้วคอลลาเจนผงมี 2 ชนิด คือ พาวเดอร์และแกรนูล แล้วทั้ง 2 ชนิดนั้นต่างกันอย่างไร วันนี้เรามาหาคำตอบกัน คอลลาเจนคืออะไร คอลลาเจน คือ โปรตีนสายาวชนิดหนึ่งซึ่งเป็นโปรตีนธรรมชาติที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของผิวหนัง โดยทำหน้าที่ยึดเกาะเซลล์ผิวหนัง เอ็น ข้อต่อ พังผืดและกล้ามเนื้อตลอดจนผนังหลอดเลือดให้ติดแน่นสนิท มีผลให้ผิวหนังแลดูเต่งตึง เพราะคอลลาเจนทำหน้าที่เชื่อมเซลล์ในร่างกายเข้าด้วยกัน โดยเซลล์ผิวหนังในร่างกายจะมีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบถึง 75% ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการทำให้ผิวดูชุ่มชื้น นุ่มนวล เต่งตึง กระชับ ไม่เหี่ยวย่น ไม่มีริ้วรอยและรอยตีนกา อีกทั้งยังช่วยเติมเต็มผิวที่หย่อนคล้อย ให้กลับมาเรียบตึง แต่เมื่อคนเราเริ่มมีอายุมากขึ้น การสร้างคอลลาเจนในร่างกายก็จะเริ่มลดลงเรื่อย ๆ ตามอายุที่เพิ่มขึ้น และปัจจัยอื่น ๆ ก็สามารถทำให้ร่างกายสูญเสียคอลลาเจนในร่างกายได้เช่นกัน อาทิ แสงแดด การพักผ่อนไม่เพียงพอ สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ล้วนเป็นตัวการสำคัญในการทำลายคอลลาเจน…

คอลลาเจนจากธรรมชาติ มีอยู่ในอาหารอะไรบ้าง

คอลลาเจนจากธรรมชาติ มีอยู่ในอาหารอะไรบ้าง คอลลาเจน เป็นโปรตีนโครงสร้างหลักในเนื้อเยื่อเกี่ยวพันหลายชนิดในสัตว์ คอลลาเจนเป็นองค์ประกอบหลักของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันส่วนใหญ่พอคอลลาเจนในรูปเส้นใยฝอยยืดในเนื้อเยื่อเส้นใยเช่น เอ็นกล้ามเนื้อ, เอ็นและผิวหนัง โดยมนุษย์เรานั้นสามารถสร้างคอลลาเจนได้เองภายในร่างกาย แต่เมื่อมีอายุมากขึ้น การสร้างคอลลาเจนในร่างกายก็จะลดลงไปเรื่อย ๆ ตามอายุที่มากขึ้น ทำให้ร่างกายมีการเปลี่ยนเช่นผิวหนังที่หย่อนคล้อย ไม่ตึงกระชับ รอยริ้วแห่งวัยต่าง ๆ ผิวหมองคล้ำไม่เหมือนกับตอนเป็นวัยรุ่น ทำให้หลายคนนั้นจะต้องหาอาหารเสริมคอลลาเจนมาทาน เพื่อให้ผิวพรรณกลับมาเต่งตึงเหมือนตอนวัยรุ่น แต่รู้หรือไม่นอกจากคอลลาเจนเสริม ยังมีคอลลาเจนธรรมชาติที่อยู่ตามอาหารมากมาย ซึ่งสามารถช่วยฟื้นฟูคอลลาเจนในร่างกายได้เหมือนกัน ซึ่งหลายคนอาจจะคิดว่าเป็นพวกปลาทะเล หมู หรืออื่น ๆ ที่เขานำมาสกัดเป็นคอลลาเจนกัน แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้มีแค่นั้น เพราะยังมีอาหารอีกมากมายที่มีคอลลาเจนอยู่ โดยอาหารที่มีคอลลาเจนผสมอยู่นั้นมีดังต่อไปนี้ ถั่วเหลือง ถั่วเหลืองหรือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากถั่วเหลืองทุกชนิด และชีสทุกประเภทที่มีเจนิสติน (genistein) มักมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อว่า ไอโซฟลาโวน โดยสารดังกล่าวนี้จะมีส่วนช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนให้แก่ร่างกายจึงช่วยยกกระชับผิวให้เต่งตึงยิ่งขึ้น และยังช่วยบล็อกเอนไซม์ตัวร้าย ตัวการของการเกิดริ้วรอยหย่อนคล้อยได้เป็นอย่างดี ผักผลไม้สีแดง ผักผลไม้สีแดง ไม่ว่าจะเป็นมะเขือเทศ พริกหยวกสีแดง ฟักข้าว แครอท หัวบีทรูทหรือมันเทศ รู้อะไรมั้ยว่า มันเป็นแหล่งของไลโคปีนสูงที่จะช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ไลโคปีนยังมีบทบาทหน้าที่คล้ายกันกับอนุมูลอิสระที่จะช่วยในการชะลอริ้วรอยแห่งวัยและยังสามารถช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเซลล์ผิวได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วยนะ กรดไขมันโอเมก้า กรดไขมันโอเมก้า อีกหนึ่งแหล่งอาหารที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจากธรรมชาติชั้นเยี่ยมอย่างที่ไม่ควรมองข้ามเพราะกรดไขมันดังกล่าวยังสามารถช่วยแต่งเติมร่องลึกของเซลล์ผิวที่ได้รับการทำลายจากอนุมูลอิสระให้มีความแข็งแรงสมบูรณ์ได้มากยิ่งขึ้นซึ่งสามารถกินอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้าได้จากอาหารรอบตัว…

เคล็ดลับการเลือกทานคอลลาเจน

เคล็ดลับการเลือกทานคอลลาเจน คอลลาเจนในทุกวันนี้นั้นมีจำหน่ายอย่างมากมายในท้องตลาด เนื่องจากมีผู้คนมากมายหันมาให้ความสนใจกับคอลลาเจนกันมากขึ้น แต่มีใครเคยสงสัยกันหรือไม่ว่าคอลลาเจนที่ทานในทุกวันนั้น ทานไปแล้วจะช่วยดูแลผิวอย่างไร แล้ววิธีการทานนั้นถูกหรือไม่ ดังนั้นเราจะมาบอกถึงเคล็ดลับการเลือกทานคอลลาเจน มาดูกันว่าวิธีที่เราทานนั้นถูกกันหรือไม่ ถ้าพร้อมก็ไปดูกันเลย เลือกคอลลาเจนที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก หน้าที่ของคอลลาเจนนั้นคือเข้าไปช่วยฟื้นฟูผิวพรรณที่สึกหรอ ให้กลับมายืดหยุ่น เรียบเนียนและเต่งตึงอีกครั้ง โดยเฉพาะคอลลาเจนที่มีขนาดเล็กอย่างคอลลาเจนเปปไทด์ ซึ่งมีเป็นคอลลาเจนโมเลกุลขนาดเล็ก ทำให้สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็วและดีที่สุด เพราะไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยที่กระเพาะอาหาร แต่กลับสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ทันที ทำให้เห็นผลได้อย่างรวดเร็วเมื่อติดต่อกัน ทานในปริมาณที่เหมาะสม คอลลาเจนนั้นก็เหมือนกับอาหารเสริมอื่น ๆ คือจะต้องทานใบปริมาณที่เหมาะสมหรือปริมาณที่พอดีถึงจะเข้าไปฟื้นฟูผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งถ้าทานน้อยไปก็จะไม่สามารถบำรุงผิวได้เต็มประสิทธิภาพ ทานมากไปร่างกายก็จะขับออกมาทำให้เรานั้นเปลืองเงินโดยใช่เหตุ ดังนั้นควรทานให้พอดีคือ 5,000 มิลลิกรัมต่อวัน เพราะเป็นปริมาณที่เหมาะสมและเพียงพอต่อการดูดซึม ทานคู่กับวิตามินซี วิตามินซีกับคอลลาเจนนั้นเป็นของคู่กัน เพราะวิตามินซีนั้นมีคุณสมบัติที่ช่วยในเรื่องของการกระตุ้นการสร้างสิ่งต่าง ๆ โดยเฉพาะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ดังนั้นถ้าหากทานคอลลาเจนควบคู่ไปกับวิตามินซีนั้นก็จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งสามารถทานได้ทานคู่กันได้กับผักและผลไม้ที่มีวิตามินซี หรือจะทานคู่กับอาหารเสริมวิตามินซีก็ได้เช่นกัน ทานอย่างต่อเนื่องและดูแลตัวเองควบคู่ไปด้วย อย่างที่บอกให้ข้อก่อนหน้านี้ว่า คอลลาเจนนั้นก็เหมือนกับอาหารเสริมอื่น ๆ ซึ่งก็คือเราต้องทานอย่างต่อเนื่องถ้าเรานั้นทานไม่ต่อเนื่อง แล้วไม่ดูแลตัวเอง ประสิทธิของคอลาเจนที่ทานลงไปก็มีสิทธิ์ลดลงไปเช่นกัน ดังนั้นเราจะต้องทานคอลลาเจนอย่างสม่ำเสมอ พร้อมกับดูแลตัวเองโดยการทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ เพียงเท่านี้ผิวพรรณสวยสุขภาพดีก็อยู่กับเราไปอีกนาน เลือกคอลลาเจนที่มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน การเลือกคอลลาเจนนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญ ใช่ว่าคอลลาเจนทุกยี่ห้อนั้นจะสามารถซื้อมาทานได้ เพราะถ้าเรานั้นได้ทานคอลลาเจนที่ดี มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงมีส่วนผสมอื่น…