Acerola Cherry เหมาะกับใครบ้าง

Acerola Cherry เหมาะกับใครบ้าง อะเซโรล่าเชอร์รี่ (Acerola Cherry) เป็นผลไม้ที่มีสีแดงสด มีรสชชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย เป็นผลไม้ที่มีผิวบางและช้ำได้ง่ายมาก ที่สำคัญเมื่อทำการเก็บเกี่ยวแล้ว จะต้องเก็บไวในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 7 องศาเซลเซียส การดูแลรักษาค่อนข้างยาก แต่เพราะผลที่ได้นั้นกลับมากมาย เพราะในอะเซโรล่าเชอร์รี่นั้นมีวิตามินซีที่สูงกวาส้มถึง 3 เท่า ด้วยเหตุนี้ทำให้อะเซโรล่าเชอร์รี่จึงถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบอาหารเสริมหรือวิตามิเสริมต่าง ๆ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ทานอะเซโรล่า เชอร์รี่ได้ ดังนั้นวันนี้เราจะไปดูกันว่าใครบ้างที่เหมาะกับ อะเซโรล่า เชอร์รี่ตัวนี้ Acerola Cherry เหมาะกับใครบ้าง ผู้ที่อยากมีผิวพรรณสวยงาม อะเซโรล่าเชอร์รี่นั้นเหมาะกับผู้ที่อยากมีผิวพรรณสวยงามไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น วัยทำงาน จนไปถึงผู้สูงอายุ เพื่อไม่ให้ผิวดูก่อนวัย ซึ่งอะเซโรล่านั้นจะช่วยฟื้นฟูผิวพรรณให้มีความสดชื่น โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาทางผิวหนังเช่น จุดด่างดำ ฝ้า กระ และริ้วรอย ผู้ที่ต้องการมีสุขภาพที่แข็งแรง เพราะอะเซโรล่าเชอร์รี่มีวิตามินซีที่สูงกว่าส้มถึง 3 เท่า ซึ่งสามารถครอบคลุมได้ตั้งแต่ช่วยป้องการการเป็นหวัด และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยให้เซลล์มีความเสื่อมช้าลง พร้อมกับซ่อมแซมคอลลาเจนในผิวหนัง ผู้ที่มีปัญหาเรื่องระดับน้ำตาลสูงกว่าปกติ หรือเรียกอีกอย่างว่าสภาวะโรคเบาหวาน โดยอะเซโรล่าเชอร์รี่นั้นมีคุณสมบติในการช่วยย่อยคาร์โบไฮเดรตให้ลดน้อยลง และทำให้สามารถดูดซึมน้ำตาลกลูโคสได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ที่ต้องการสร้างภูมิคุ้มกันโรค อะเซโรล่าเชอร์รี่จะช่วยให้ร่างกายผลิตเม็ดเลือดขาวได้อยางมีประสิทธิภาพ โดยหน้าที่สำคัญของเม็ดเลือดขาวคือการดักจับเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย ผู้ที่มีความเสี่ยงป็นโรคผิวหนัง อะเซโรล่าเชอร์นั้นสามารถทำหน้าที่เทียบเคียงได้กับกระบวนการสร้างแอนติบอดี้ที่ร่างกายสร้างขึ้น…

วิตามินซีมีประโยชน์และโทษอะไรบ้าง

วิตามินซีมีประโยชน์และโทษอะไรบ้าง ปัจจุบันนั้นมีผู้คนมากมายที่รักสวยรักงาม หรือรักสุขภาพกันมากขึ้น จึงทำให้มีหลายคนหันมาทานรับประทานวิตามินซี ทั้งในรูปแบบวิตามินที่ได้จากผลไม้หรือวิตามินซีเสริม เพื่อความสวยความงาม ถึงแม้ว่าวิตามินซีจะมีอยู่ในผักผลไม้หลายชนิดแต่ก็มีคนไม่ชอบทานเหมือนกัน ซึ่งในวันนี้เรามาพาไปรู้ถึงประโยชน์และโทษของวิตามินซีกัน โดยจะมีอะไรบ้างนั้นก็ไปดูกันเลย วิตามินซี คืออะไร หลายคนอาจจะเคยได้ยินแค่ชื่อ แต่ไม่รู้ว่าวิตามินซีคืออะไร เราจะมาบอกกัน วิตามินซี เป็นวิตามินที่มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของร่างกาย แต่ร่างกายของเรานั้นไม่สามารถผลิตวิตามินซีขึ้นมาเองได้ และร่างกายก็ยังไม่สามารถเก็บสะสมวิตามินซีได้ เนื่องจากวิตามินซีนั้นเป็นวิตามินชนิดที่ละลายในน้ำได้ ดังนั้นการรับประทานวิตามินซีจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น ประโยชน์ของวิตามินซี มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อทุกส่วนในร่างกายไม่ว่าจะเป็นเนื้อเยื่อ ของผิวหนัง เส้นเอ็น เส้นเลือด ซึ่งวิตามินซีนั้นจะช่วยให้อวัยวะเหล่านี้ไม่เปราะ ยืดหยุ่น และแข็งแรง ช่วยรักษาแผลเป็น และแผลต่าง ๆ ให้หายเร็วขึ้นเช่น แผลสด แผลไฟไหม้ ช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และเป็นตัวสร้างคอลลาเจน มีสารต่อต้านโรคภูมิแพ้ สามารถบรรเทาอาการหอบหืดให้ดีขึ้นได้ บรรเทาอาการแพ้ หากทานวิตามินซีร่วมกับ กรดแพนโทเธนิค (Pantothenic Acid) จะช่วยป้องกันอาการปวดไมเกรนได้ ช่วยป้องกันและรักษาหเลือดออกตามไรฟัน ลักปิดลักเปิด หรือแม้กระทั่งสามารถป้องกันหวัดได้ ลดการอักเสบจากการติดเชื้อ ป้องกันโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โทษของวิตามินซี ถึงแม้วิตามินซีเป็นวิตามินที่ร่างกายไม่สามารถเก็บกักไว้ใช้งานได้และหากได้รับวิตามินซีมากเกินไป ก็จะถูกขับออกมาทางปัสสาวะก็ตาม แต่หากรับประทานวิตามินซีจำนวนมากติดต่อกันหลายวัน…

วิตามินซีช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันได้นะ

วิตามินซีช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันได้นะ ทุกวันนี้สุขภาพนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากยิ่งขึ้น เฉพาะอย่างยิ่งในช่วงนี้ที่มีเชื้อไวรัสอย่างโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 (COVID-19) ระบาดอย่างหนักในทั่วโลก ทำให้คนสนใจสุขภาพมากกว่าเดิม เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งหนึ่งในทางปกป้องกันก็คือเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง แพทย์แผนไทยแนะนำอาหารที่ช่วยเพิ่มเสริมภูมิต้านทานของร่างกาย ช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือไวรัสโควิด-19 (COVID-19) โดย นพ.มรุต จิรเศรษฐศิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก แนะนำผักผลไม้สมุนไพร 3 กลุ่ม เพื่อเสริมภูมิต้านทานของร่างกายช่วยป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้แก่ กลุ่มเสริมภูมิคุ้มกัน ได้แก่ สมุนไพรที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย กลุ่มที่มีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระสูง ได้แก่ ผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง กลุ่มที่มีสารสำคัญที่มีศักยภาพในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้แก่ สารกลุ่มแอนโทไซยานิน วิตามินซีคืออะไร วิตามินซี เป็นวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย เป็นวิตามินที่มีส่วนช่วยในเรื่องของผิวพรรณ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หรือเสริมสร้างการดูดซึมของคอลลาเจน โดยวิตามินซี (Vitamin C) หรือกรดแอสคอร์บิค (Ascorbic Acid) เป็นวิตามินที่สามารถละลายในน้ำ ร่างกายของคนเราไม่สามารถสังเคราะห์ใช้เองได้ จึงทำให้เราจะต้องได้รับวิตามินซีผักและผลไม้ เช่น ผลไม้ตระกูลส้ม สตรอว์เบอร์รี่ และอะเซโรล่าเชอร์รี่เป็นต้น อะเซโรล่าเชอร์รี่คืออะไร อะเซโรล่า เชอร์รี่…

อะเซโรล่าเชอร์รี่คืออะไร

อะเซโรล่าเชอร์รี่คืออะไร สาว ๆ หลายคนนั้นต้องการมีผิวพรรณที่ขาวกระจ่างใส โดยสาว ๆ เหล่านั้นอาจจะหาตัวช่วยก็คือคอลลาเจน อาหารเสริมผิวขาว ๆ รวมถึงวิตามินซีเสริม ซึ่งวิตามินซีเสริมนั้นก็คือสารสกัดที่แตกต่างกันวางขาย แต่ที่กำลังฮิตในปัจจุบันนั้นก็คือ อะเซโรล่าเชอร์รี่ แต่ก็มีหลายคนนั้นสงสัยว่าอะเซโรล่าเชอร์รี่คืออะไร เพราะว่าไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน วันนี้เรามารู้จักกับผลไม้ชนิดนี้กัน อะเซโรล่าเชอร์รี่คืออะไร อะเซโรล่า เชอร์รี่ เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่มีหน้าตาคล้าย ๆ กันกับลูกเชอร์รี่แต่ลูกจะแป้นและกลมกว่า เมื่อสุกจะส่งกลิ่นหอมหวานคล้าย ๆ กับแอปเปิ้ล รสชาติเปรี้ยวอมหวาน มีสีแดง ผลของอะเซโรล่าเชอ์รี่นั้นจะบอบบางมาก เวลาที่เก็บมาผลจะช้ำได้ง่ายมาก เมื่อต้องเก็บแล้วต้องเก็บไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 7 องศาเซลเซียส จึงจะไม่เกิดเป็นเชื้อรา นอกจากนี้ อะเซโรล่า เชอร์รี่ยังเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น วิตามินซี โปรตีนและแร่ธาตุซึ่งจะมีสูงโดยเฉพาะ เหล็ก ฟอสฟอรัส แคลเซียม และมีสารตัวหนึ่งชื่อ trans-beta-carotene ซึ่งว่ากันว่าเป็นสารที่สามารถเสริมภูมิต้านทานของร่างกายได้ มีปริมาณของไขมันอิ่มตัว และโซเดียมต่ำ ไม่มีคอเลสเตอรอล อะเซโรล่าเชอร์รี่มีวิตามินซีสูงกว่าส้ม อะเซโรล่า เชอร์รี่นั้นมีสารอาหารเด่น ๆ ก็คือปริมาณวิตามินซีสูงมาก เมื่อเปรียบเทียบกับวิตามินซีที่ขึ้นว่ามีปริมาณวิตามินซีสูงแล้ว…

วิตามินซีเสริมดีจริงหรือไม่

วิตามินซีเสริมดีจริงหรือไม่ ใครบ้างที่ซื้อวิตามินซีเสริมมาติดไว้ที่บ้าน ซึ่งหลายคนนั้นอาจจะเคยได้ยินประโยชน์ของวิตามินซีเสริมกันมาอย่างหนาหูว่าช่วยเสริมภูมิต้านทานให้แข็งแรง ทานแล้วไม่เป็นหวัด ไม่ป่วยง่ายและบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส แต่ในความเป็นจริงนั้นมีใครเคยสงสัยกันหรือไม่ว่า วิตามินซีเสริมนั้นมีประโยชน์จริงหรือไม่ วันนี้เรามาหาคำตอบกัน วิตามินซีคืออะไร วิตามินซี (Vitamin C) หรือกรดแอสคอร์บิค (Ascorbic Acid) เป็นวิตามินที่สามารถละลายในน้ำ ร่างกายของคนเราไม่สามารถสังเคราะห์ใช้เองได้ จึงทำให้เราจะต้องได้รับวิตามินซีผักและผลไม้ เช่น ผลไม้ตระกูลส้ม สตรอว์เบอร์รี่ และอะเซโรล่าเชอร์รี่เป็นต้น วิตามินซีเสริม ป้องกันหวัดได้จริงหรือ แม้หลายคนจะมีความเชื่อหรือได้ยินมาว่าวิตามินซีช่วยป้องกันโรคหวัดได้ หรือเมื่อเป็นหวัดให้รีบทานวิตามินซีเสริมเพื่อให้หายจากอาการหวัด แต่ผลการศึกษาที่ปรากฏกลับพบว่าการทานวิตามินซีเป็นประจำอย่างเพียงพอนั้นมีส่วนช่วยลดความรุนแรงและระยะเวลาในการเป็นหวัดได้เท่านั้น แต่ไม่ได้มีข้อบ่งชี้ที่บอกว่าวิตามินจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคหวัดขึ้นได้แต่อย่างใด เว้นแต่เป็นคนที่ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำเช่นวิ่งมาราธอน จ๊อกกิ้งยามเช้า หรือผู้ที่ร่างกายมีภูมิต้านทานแข็งแรงอยู่แล้วมักมีแนวโน้มของการฟื้นตัวได้เร็วกว่า ทานวิตามินซีเสริมดีต่อผิวจริงหรือไม่ วิตามินซีนั้นเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอผิวจากการถูกทำลายด้วยรังสี ความร้อน แสงแดดและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ที่หลายคนนั้นมักจะต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน ซึ่งล้วนแต่ส่งผลให้คอลลาเจนในชั้นผิวถูกทำลายลง เป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวแห้งกร้าน มีริ้วรอยและจุดด่างดำ แต่การบริโภควิตามินซีเป็นประจำถือว่าเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยในการผลิตคอลลาเจนที่มีส่วนช่วยชะลอการเสื่อมโทรมของเซลล์ที่แข็งแรงภายในร่างกาย และป้องกันไม่ให้อนุมูลอิสระเข้าไปทำร้ายเซลล์ที่แข็งแรงภายในร่างกาย วิตามินซีเสริมจากอะเซโรล่าเชอร์รี่ดียังไง อะเซโรล่าเชอร์รี่นั้นหลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน แต่อะเซโรล่าเชอร์รี่นั้นได้รับขนานนามเป็น ผลไม้ที่ให้วิตามินซีสูงสุด ซึ่งในปริมาณ 100 กรัมนั้น อะเซโรล่าเชอร์รี่นั้นสามารถให้ปริมาณวิตามินซีสูงถึง 1,677 มิลลิกรัม ซึ่งมากกว่าส้ม 30 –…

วิตามินซีอะเซโรล่าเชอร์รี่ดียังไง

วิตามินซีอะเซโรล่าเชอร์รี่ดียังไง วิตามินซีเสริม ในท้องตลาดนั้นมีการการจำหน่ายอย่างมากมาย แต่โดยส่วนใหญ่มากนั้นจะมีการสกัดมากจากส้ม แต่ก็ยังมีสารสกัดอีกตัวที่มีสรรพคุณพอ ๆ กับส้มหรืออาจจะมากกว่าส้มที่ถูกนำมาทำเป็นวิตามินซีเสริมเช่นกัน นั้นก็คอ อะเซโรล่าเชอร์รี่ แต่เนื่องจากวิตามินซีเสริมที่สกัดมาจากอะเซโรล่าเชอร์รี่นั้นมีปริมาณที่น้อย ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยรู้จักหรือรู้ถึงประโยชน์ของวิตามินซีอะเซโรล่าเชอร์รี่เท่าไหร่นัก ดังนั้นในวันนี้เราจะพาไปรู้จักอะเซโรล่าเชอร์รี่กัน อะเซโรล่าเชอร์รี่คืออะไร อะเซโรล่าเชอร์รี่ เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่มีหน้าตาคล้าย ๆ กันกับลูกเชอร์รี่แต่ลูกจะแป้นและกลมกว่า เมื่อสุกจะส่งกลิ่นหอมหวานคล้าย ๆ กับแอปเปิ้ล รสชาติเปรี้ยวอมหวาน มีสีแดง ผลของอะเซโรล่าเชอ์รี่นั้นจะบอบบางมาก เวลาที่เก็บมาผลจะช้ำได้ง่ายมาก เมื่อต้องเก็บแล้วต้องเก็บไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 7 องศาเซลเซียส จึงจะไม่เกิดเป็นเชื้อรา นอกจากนี้อะเซโรล่าเชอร์รี่ยังเป็นผลไม้ที่มากไปด้วยคุณประโยชน์ยิ่งกว่าผลไม้อีกมากมายหลายชนิดบนโลก เนื่องจากปริมาณวิตามินซีบริสุทธิ์ในผลอะเซโรล่าเชอร์รี่ที่มีมากถึง 1,644 มิลลิกรัมจากการกลิ่นน้ำอะเซโรล่าเชอร์รี่ 1 ถ้วยและยังมีแร่ธาตุวิตามินอื่น ๆ อีกมากมาย สรรพคุณของอะเซโรล่าเชอร์รี่ แหล่งวิตามินซีชั้นดี อะเซโรล่าเชอร์รี่นั้นเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมภูมิต้านทานของร่างกาย ไขมันอิ่มตัวและโซเดียมต่ำ ไม่มีคอเรสเตอรอล และมีการวิจัยมาแล้วว่าปริมาณวิตามินซีสูงกว่าที่พบในส้มถึง 30 – 80 เท่า มีการศึกษาพบว่า ผู้ที่รับประทานวิตามินซีอย่างต่อเนื่องเป็นประจำตลอดระยะเวลา 5 ปี สามารถลดโอกาสป่วยเป็นไข้หวัดได้ชัดเจน เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับประทานวิตามินซีอย่างต่อเนื่องและหากรับประทานวิตามินซีปริมาณมากกว่า 200 มิลลิกรัมต่อวันจะช่วยลดระยะเวลาการเจ็บป่วยจากไข้หวัดได้…

ใครบ้างที่ควรทาน Acerola Cherry

ใครบ้างที่ควรทาน Acerola Cherry อะเซโรล่าเชอร์รี่ (Acerola Cherry) เป็นผลไม้ที่มีสีแดงสด มีรสชชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย เป็นผลไม้ที่มีผิวบางและช้ำได้ง่ายมาก ที่สำคัญเมื่อทำการเก็บเกี่ยวแล้ว จะต้องเก็บไวในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 7 องศาเซลเซียส การดูแลรักษาค่อนข้างยาก แต่เพราะที่ได้มากนั้นกลับมากมาย เพราะในอะเซโรล่าเชอร์รี่นั้นมีวิตามินซีที่สูงกวาส้มถึง 3 เท่า ด้วยเหตุนี้ทำให้อะเซโรล่าเชอร์รี่จึงถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบอาหารเสริมหรือวิตามิเสริมต่าง ๆ Acerola Cherry เหมาะกับใครบ้าง ผู้ที่อยากมีผิวพรรณสวยงาม อะเซโรล่าเชอร์รี่นั้นเหมาะกับผู้ที่อยากมีผิวพรรณสวยงามไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น วัยทำงาน จนไปถึงผู้สูงอายุ เพื่อไม่ให้ผิวดูก่อนวัย ซึ่งอะเซโรล่านั้นจะช่วยฟื้นฟูผิวพรรณให้มีความสดชื่น โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาทางผิวหนังเช่น จุดด่างดำ ฝ้า กระ และริ้วรอย ผู้ที่ต้องการมีสุขภาพที่แข็งแรง เพราะอะเซโรล่าเชอร์รี่มีวิตามินซีที่สูงกว่าส้มถึง 3 เท่า ซึ่งสามารถครอบคลุมได้ตั้งแต่ช่วยป้องการการเป็นหวัด และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยให้เซลล์มีความเสื่อมช้าลง พร้อมกับซ่อมแซมคอลลาเจนในผิวหนัง ผู้ที่มีปัญหาเรื่องระดับน้ำตาลสูงกว่าปกติ หรือเรียกอีกอย่างว่าสภาวะโรคเบาหวาน โดยอะเซโรล่าเชอร์รี่นั้นมีคุณสมบติในการช่วยย่อยคาร์โบไฮเดรตให้ลดน้อยลง และทำให้สามารถดูดซึมน้ำตาลกลูโคสได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ที่ต้องการสร้างภูมิคุ้มกันโรค อะเซโรล่าเชอร์รี่จะช่วยให้ร่างกายผลิตเม็ดเลือดขาวได้อยางมีประสิทธิภาพ โดยหน้าที่สำคัญของเม็ดเลือดขาวคือการดักจับเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย ผู้ที่มีความเสี่ยงป็นโรคผิวหนัง อะเซโรล่าเชอร์นั้นสามารถทำหน้าที่เทียบเคียงได้กับกระบวนการสร้างแอนติบอดี้ที่ร่างกายสร้างขึ้น ทำให้ร่างกายสามารถต่อต้านเชื้อราได้ดี   อะเซโรล่าเชอร์ไม่เหมาะกับใครบ้าง ถึงแม้ว่าอะเซโรล่าเชอร์รี่นั้นจะมีประโยชน์มากมาย สามารถช่วยในเรื่องต่าง…

ประโยชน์ของอะเซโรลา-เชอร์รี่

อะเซโรลา เชอร์รี่ มีประโยชน์อย่างไร

อะเซโรลา เชอร์รี่ มีประโยชน์อย่างไร                 อะเซโลรา เชอร์รี่ เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ คือวิตามินซี มีโปรตีนและแร่ธาตุสูงโดยเฉพาะ เหล็ก ฟอสฟอรัส แคลเซียม และมีสารสำคัฯตัวหนึ่งที่เชื่อว่าสามารถเสริมภูมิต้านทานของร่างกาย มีปริมาณของไขมันอิ่มตัว และโซเดียมต้ำ ไม่มีคลอเลสเตอรอล ประโยชน์ของอะเซโรลา เชอร์รี่ ช่วยเร่งการสร้างเสริมคอลลาเจน ช่วยให้ผิวเต่งตึงผิวพรรณดูอ่อนกว่าวัย และทำให้ผิวกระชับและยืดหยุ่นอยู่เสมอ ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้น ลดการเกิดจุดด่างดำ ที่เกิดจากมลพิษหรืออันตรายจากแสง UV ช่วยให้ผิวหนังดูอิ่มน้ำและคงความชุ่มชื้นไว้ และทำให้ผิวหนังแก่ช้าลงเมื่ออายุมากขึ้น ช่วยเพิ่มประสิมธิภาพการทำงานของคอลลาเจน ช่วยลดเลือนริ้วรอยต่างๆ บนผิวหนัง เพื่อความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง ช่วยเร่งการฟื้นฟูซ่อมแซมบาดแผล แผลไฟไหม้ แผลเป็น ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของผิว ช่วยต่อสู่กับรอบเหี่ยวย่นบนใบหน้า ริ้วรอยร่องตื่น จุดด่างดำ รองหมองคล้ำ ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะช่วยปกป้องผิวหนังที่ถูกจากการทำลาย   อะเซโรลาเชอร์รี่ กินตอนไหนดี                 สำหรับอะเซโรล่าเชอร์รี่เป็นอาหารเสริมวิตามินที่ประสิทธิภาพมากกว่าวิตามินซีทั่วไป ซึ่งมีปริมาณของวิตามินซีสูงกว่าที่พบในส้มมากถึง 30-80 เท่า ทำให้สามารถกินตอนไหนก็ได้ อาจจะกินในช่วงเช้า หรือก่อนนอน หรือกินคู่กับอาหารเสริมอื่นๆ เพื่อช่วยดูดซึมอาหารเสริมนั้นๆ ให้ได้รับประสิทธิภาพสูงสุด…